ความรักกับความเหงา
มีน้องสองคนมาชักชวนให้ร่วมเขียนเรื่องสำหรับส่งไปลงในธรรมะใกล้ตัว คนแรกให้หัวข้อความรัก คนถัดมาให้หัวข้อเรื่องความเหงา ผมบอกคนหลังว่าสำหรับผมแล้ว ทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกันที่พูดออกมาจากสองมุมนั่นเอง ลองมาดูกันครับว่าสองอย่างนี้เป็นเรื่องเดียวกันไหมและอย่างไร ตลอดจนมีความเกี่ยวโยง กับพระพุทธศาสนาอย่างไร
ฉันรักความทุกข์
อย่าเพิ่งหาว่าเราเพ้อไปค่ะ เรายังอยากพ้นโลกเพราะไม่อยากทุกข์เหมือนเดิม แต่ที่บอกว่ารักทุกข์น่ะ เพราะมันให้อะไรดี ๆ มากมายเลยนะ พยายามถ่ายทอดธรรมะเป็นทฤษฎีมาเยอะแล้ว ครั้งนี้ขอเล่าเป็นภาคปฏิบัติจากประสบการณ์ของตัวเองบ้างดีกว่า แต่ก่อนจะเริ่มเรื่องตัวเอง ขอเกริ่นถึงที่มาของการเริ่มเขียนบทความก่อนจะขออ้างอิงถึงเรื่อง Little Buddha
(กว่าจะ)รู้จักรัก
คนเรามักคิดว่าอารมณ์โรแมนติคหลงเคลิ้มชวนฝันมาก ๆ อยากมีเค้าอยู่ข้างกายมาก ๆ คือ รักมาก ทั้งที่แท้จริงแล้วมันคืออาการปรากฏของกิเลส และความยึดมั่นในตัวตนของตนเอง อันนี้คือ รักอย่างทางโลก ไม่ใช่รักอย่างทางธรรมที่ไม่ประกอบด้วยกิเลส และความยึดถือ
อดีตคือ ความจริง ปัจจุบันคือ ความจริง
ความทรงจำที่แสนดีมันจะไม่ใช่ความทรงจำที่ดีแน่ถ้ามันทำให้คุณเจ็บปวด
ไม่ว่าเขาจะเคยดีแสนดีแค่ไหน ถ้าปัจจุบันเขาไม่ใช่ นั่นคือไม่ใช่
ไม่ว่าอดีตเขาจะเลวแสนเลวขนาดไหน ถ้าปัจจุบันเขาดีกับเราอยู่ นั่นคือเขาดี
รักจะสร้างสุข หรือรักจะสร้างทุกข์
ที่ใคร ๆ คิดอยากจะมีความรักก็เพราะอยากมีความสุข แต่แท้จริงแล้วลองสำรวจตนเองดูว่ามีรักแต่ละครั้ง มันจะมีทุกข์พ่วงมาด้วยเสมอหรือไม่?
ความรักเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่เราไม่สามารถหาเหตุผล บางคนมีรักแล้วทุกข์มาก บางคนมีรักแล้วทุกข์น้อย น้อยคนไม่รู้ว่าเป็น เพราะกรรมที่เราทำมันส่งผลให้เรามีใจผูกยึดกับใคร
เหตุเกิดจากความเหงา
ตัวฉันเอง เมื่อก่อนเป็นคนขี้เหงามาก...
มาจนตอนนี้เจอเหตุการณ์ในชีวิตมากมาย ก็ทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับความเหงา ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับความเหงามากขึ้น
จะว่าไป... ช่วงเว้นว่างจากคู่ ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเจอคนใหม่แบบไหน ซ้ายหรือขวาก็ได้
คนที่ใช่
“คนที่ใช่” หมายถึง “คนที่เหมาะ” แต่ใจจะไม่รอคนเหมาะ เพราะกิเลสสั่งให้หาคนที่ดีที่สุด เร็วที่สุด ซึ่งก็นั่นแหละครับ เป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่เจอคนที่ใช่กันสักที” จากหนังสือ รักแท้มีจริง
ความเหงาเป็นตัวผลักดันให้เราเลือกคนให้เร็วที่สุด แต่ความเหงา ไม่ได้ทำให้ความรักของเรามี “ความสุข”
ยิ้มในทุกข์
เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองในการคิด เราก็จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้
เวลาที่เราอกหักรู้สึกขาดที่พึ่งทางใจ จงเห็นโทษของการไม่สามารถพึ่งตนเอง
เวลาที่ทุกข์นึกถึงอดีตที่แสนดี จงเห็นโทษของการยึดมั่นถือมั่น
ตอบปัญหาคนมีทุกข์
เข้าไปตอบปัญหากระทู้ในลานธรรมเกี่ยวกับเรื่องความรัก เริ่มเห็นวงจรซ้ำ ๆ ที่ใครหลายคนติดอยู่ เลยเข้าไปตอบประมาณนี้
“เวลาที่มีปัญหาเราแค่ต้องการคนฟังเพื่อระบาย หรือเพื่อต้องการคำตอบเพื่อนำไปแก้ปัญหาจริง ๆ”
หลายครั้งที่เข้ามาอ่านกระทู้ในลานธรรมรู้สึกไม่แน่ใจว่าคำแนะนำของตนเองและของเพื่อนธรรมคนอื่น ๆ จะช่วยคนที่เสียใจ ได้มากแค่ไหน มองย้อนกลับมาที่ตัวเองเมื่อก่อนก็ได้พบว่า การพูดออกมามีข้อดีแค่ได้เป็นที่ระบาย ทำให้เรารู้สึกดี เหมือนมีเพื่อนคุย มีคนที่เข้าใจเรา หวังดีต่อเรา แต่...ไม่ใช่คำตอบที่เราต้องการจริง ๆ เพราะมันยังไม่ช่วยแก้ปัญหาใด ๆ ได้
Page 1 of 2