ครั้งหนึ่งพี่ชายเคยสอน ญ ว่า “ญ ต้องมีเป้าหมาย ถ้า ญ ไม่มีเป้าหมาย ญ จะไม่มีทิศทางเดิน”

ก่อนจะสรุปเรื่องราวว่า มันเกี่ยวข้องกับบทความนี้ยังไง ขอยกเนื้อหาบางตอนจากหนังสือ the magic of thinking big มาให้อ่านกันว่า เป้าหมายมีความสำคัญกับการทำให้ได้ในสิ่งที่ต้องการอย่างไร อันนี้เป็นเรื่องระบบการทำงานของจิต

“พลังความสำเร็จจะเพิ่มพูน เมื่อคุณกำหนดเป้าหมายที่คุณปรารถนาและตกลงใจทำให้ถึงเป้าหมาย คนจำนวนมากสามารถหาพลังสู่ความสำเร็จใหม่ๆได้โดยการเลือกเป้าหมายอันหนึ่ง และทุ่มเททำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้สำเร็จตามเป้าหมายนั้น สิ่งที่น่าพิศวงที่สุดเกี่ยวกับเป้าหมายที่ถูกยึดมั่นอย่างลึกซึ่งในจิตใจก็คือ มันช่วยให้คุณไม่ออกนอกลู่นอกทาง เมื่อคุณยอมจำนนต่อเป้าหมายของคุณ เป้าหมายจะทำงานโดยการเข้าไปสิงอยู่ใต้จิตสำนึกของคุณ จิตใต้สำนึกนั้นจะอยู่ในดุลยภาพเสมอ แต่จิตสำนึกนั้นไม่ใช่ ยกเว้นแต่ว่ามันจะถูกปรับให้ข้ากับจิตใต้สำนึกคิด ถ้าปราศจากความร่วมมืออย่างเต็มที่จากจิตใต้สำนึก คนคนนั้นจะลังเล สับสน และไม่กล้าตัดสินใจ แต่ถ้าเป้าหมายของเขาได้ถูกดูดเข้าไปในจิตใต้สำนึกแล้ว คุณจะปฏิบัติด้วยวิธีที่ถูกต้องอย่างอัตโนมัติ จิตใต้สำนึกจะเป็นอิสระที่จะคิดอย่างปลอดโปร่งและไม่มีอะไรมารบกวน

ขอแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยใช้บุคคลสมมติสองคน

ชายสองคนนี้สามารถเปรียบเทียบกันได้ในทุกด้านยกเว้น ทอมมีเป้าหมายที่มั่นคง แจ๊คไม่มี

ทอมมองเห็นภาพพจน์ที่เขาต้องการจะเป็นอย่างชัดเจน

เป้าหมายของเขาส่งสัญญาณผ่านจิตใต้สำนึกของเขาให้บอกตัวเองว่า “ทำสิ่งนี้” หรือ “อย่าทำอย่างนั้น มันไม่ช่วยให้คุณไปถึงจุดมุ่งหมายที่ต้องการจะไป” เป้าหมายของทอมพูดอย่างสม่ำเสมอว่า “ฉันคือภาพพจน์ที่คุณต้องการจะทำให้เป็นจริง ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณจะต้องทำเพื่อที่จะทำให้ฝันเป็นจริง”

เป้าหมายของทอมไม่ได้นำเขาไปในทิศทางที่คลุมเครือ แต่มันให้ทิศทางเฉพาะที่แน่นอนในกิจกรรมทุกอย่างที่เขาจะทำ เมื่อทอมจะซื้อเสื้อผ้า เป้าหมายของทอมจะบอกและแสดงให้ทอมเลือกแบบที่เหมาะสม และเป้าหมายของทอมช่วยให้เขารู้ว่าจะต้องทำขั้นตอนต่างๆอย่างไรที่จะก้าวหน้า หรือจะมีจุดยืนอย่างไรในเรื่องต่างๆ ถ้าทอมจะไขว้เขวออกจากแนวทาง อุปกรณ์อัตโนมัติที่ฝังลึกมั่นคงในจิตใต้สำนึกของเขาจะกระตุ้นเตือน และบอกเขาว่าจะทำอย่างไรที่จะกลับมาแนวทางเดิม

เป้าหมายของทอมได้ทำให้เขาสามารถตอบสนองฉับไวต่อสถานการณ์มากมายที่มีผลกระทบต่อเขา

ในอีกด้านหนึ่งแจ๊คขาดเป้าหมาย เพราะฉะนั้นจึงขาดอุปกรณ์อัตโนม้ติที่จะชี้นำตนเอง เขาสับสนบ่อยๆ การกระทำของเขาบ่องบอกถึงเป้าหมายที่เกี่ยวกับตัวเอง แจ๊คลังเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำมั่วไปหมด และขาดเป้าหมายที่มั่นคง

ลองมองรอบตัวเพื่อศึกษาบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับสูงสุด เขาเหล่านี้อุทิศตนเองให้กับวัตถุประสงค์ของเขาอย่างไร”

ตอนนั้น ญ เข้าใจบางส่วน แต่นับวัน ญ ก็เข้าใจมากขึ้นเรื่องที่พี่โจ้สอนเรื่องการอธิษฐาน มันช่วยพัฒนาเราไปในเส้นทางที่เราอยากจะเป็นจริงๆอย่างไร ตั้งแต่ ญ ได้ลองกำหนดเป้าหมายให้ใจแล้ว หลังจากนั้นทุกวัน ทุกการดำเนินชีวิตของ ญ ญ จะเฝ้าศึกษา และสำรวจตนเอง ใส่ใจกับการกระทำของตนเองมากขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่เซทไว้ อธิษฐานย้ำบ่อยๆ ละก็ไม่ลืม ผลก็คือ ญ พยายามพัฒนาตนเองงตลอดเวลา  เปลี่ยนแปลงตนเองในหลายๆ ด้านเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย แล้วก็มีความสุขมากขึ้น  ถ้าเปรียบก็เหมือนคนอยากรวย แต่ไม่ทำอะไรเลย มันก็รวยไม่ได้ เราอยากมีความรักที่ดี เราก็ต้องศึกษาหาทาง

จำประโยคแรกๆ ที่พี่ชายสอนไว้ ญ เคยถามว่า ญ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีข้อมูลเยอะ เห็นทางออกหลายทาง เลยทำให้ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ ควรทำอย่างไรดี พี่ชายบอกว่า “มีเป้าหมายแล้ว ให้ดูว่าการกระทำที่เราเลือกทำนั้น ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น หรือทำให้ห่างออกไป”

การกำหนดเป้าหมาย ทำให้จิตใจ ญ มองไปข้างหน้า  และมีกำลังที่จะเดินไปจริงๆ แม้บางครั้งจะเหนื่อยจะท้อ แต่เมื่อรู้ว่ายังเดินไม่ถึงเป้าที่ตั้ง ก็ทำให้ลุกขึ้นมาได้เสมอ:)

• < ก่อนหน้า
• ถัดไป >