เห็นทุกข์ รู้จักทุกข์

flower03เวลาที่มีความทุกข์ บางคนออกไปดูหนังฟังเพลง  พบเพื่อน หาแฟนใหม่ ซึ่งเป็นการส่งใจให้ไปอยู่ที่อื่น ที่ทำก็เพื่อให้ลืมปัญหาและความทุกข์ โดยที่ทุกข์และปัญหาที่จริงแล้วไม่ได้หมดไป ต่อไปก็ต้องกลับมาทุกข์ซ้ำซาก เพราะไม่รู้ว่าต้องถอนเหตุต้นตอที่ไหน

พี่ชายสอนว่า เวลามีทุกข์ให้กล้าเผชิญหน้า ไม่ต้องหนี ไม่ต้องขอความเห็นใจจากใคร มองในแง่หนึ่ง มันคือความโชคดีที่ทำให้เราได้ใช้กรรม ไม่สร้างเพิ่ม กรรมเก่าตรงนี้ก็หมดลง อีกข้อหนึ่งคือ เมื่อเราไม่หนี กล้าเผชิญความจริง เวลามีทุกข์ให้ใช้สติปัญญาขัดเกลา มองเข้ามาในตนเองว่าความทุกข์มีเหตุที่มาจากอะไร ในเรื่องกรรม เพราะทำเหตุอย่างนี้มา ในแง่ใจ อะไรเป็นเหตุให้เราทุกข์ อะไรเป็นวิธีทำให้เราดับทุกข์

เรามักจะมองอะไรง่ายๆว่า มีคนมากระทำกับเราแบบี้แล้วเราทุกข์ คนๆยั้นคือต้นเหตุ ถ้าเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเขาได้ หนีจากเขาไปได้เราจะหมดทุกข์ ซึ่งการคิดอย่างแรกเป็นการสร้างกรรมเพิ่ม การคิดอย่างหลังไม่ได้ช่วยให้คุณพ้นกรรม เพราะทั้งสองแบบ หากยังใช้กรรมไม่หมดกรรมจะติดตามเราไปทุกที่เสมือนเงาอยู่ดี หนีใจอย่างไรพ้น?

ตอนเราเคยทำคนอื่นไว้เราอาจไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร เมื่อเราเจอกับตัว ไม่มีโอกาสพิเศษอันใดจะดีเท่ากับได้เจอเอง รุ้เองงว่า ตอนมีทุกข์แบบนี้มันรู้สึกอย่างไร เราก็เรียนรู้ อย่าไปสร้างเหตุให้ต้องมารับทุกข์เช่นนี้อีก เป็นการขัดเกลานิสัยของตัวเราด้วยความเข้าใจจากข้างใน ไม่ต้องหวังความเมตตาจากใคร แต่ให้เมตตาตนเองก่อน ใช้กรรมให้หมดก่อน และเมื่อเราเรียนรุจนเข้มแข็ง สมบูรณ์แล้ว ก็จะเกิดความเมตตาทั้งคนที่มาทำกับเรา และผู้อื่น เราจะช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเข้าใจ และเป็นการสร้างเหตุใหม่ที่ดี

ถัดมาเรื่องของใจ ก็สังเกตไปว่า เราควบคุมความคิด ความรู้สึกเราได้ไหม ทั้งหมดมันเกิดจากเหตุคือกรรมเก่า เหตุทำไปแล้วอย่างไรผลก็เกิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต่อเมื่อเรายังเชื่อและเห็นสว่าคามคิดความรู้สึกนี้เป็นเรามันก็ต้องทุกข์แบบนี้อยู่ร่ำไป หมดเรื่องนี้ก็มีเรื่องใหม่ ดังนั้นเราจึงควรมาเรียนรู้การภาวนาให้หลุดพ้นจากวงจรเหล่านี้

อาศัยการพัฒนาตนเองทั้งสองส่วนเช่นนี้เป็นฐาน

แต่ละก้าวที่ผ่านคือความเข้มแข็งขึ้น คือก้าวที่เดินไปข้างหน้า ไปต้องหลงวนเวียนซ้ำ เจ็บแล้วให้จำเป็นบทเรียน ถ้ายอมอ่อนแอไม่เรียนรู้ก็จะต้องอ่อนแอ ทุกข์แบบนี้เรื่อยไปไม่สิ้นสุด


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.