เรื่องของคนขี้น้อยใจ
เคยหึง เคยน้อยใจบ้างไหมคะ แล้วรู้สึกใช่ไหมว่าเป็นทุกข์?
เคยเขียนบันทึกเรื่องแก้ทุกข์ โดยการแก้กรรมตรงๆจากการเข้าใจเรื่องกรรมว่าทุกข์ด้วยเรื่องอะไรก็แปลว่าเราเคยทำให้ผู้อื่นทุกข์แบบนั้นมามากแล้ว (อ่านจาก www.sangtean.com ได้ค่ะ :) ) เคยเขียนบันทึกเรื่องวิธีเลือกคู่มาก็มากแล้ว
ถ้ารักเป็น แต่รักคนผิด ชีวิตก็แย่ แต่การทำตัวให้ใช่ก็สำคัญไม่แพ้กัน เราอาจจะมีคู่ที่ดี แต่เราไม่มีความสุขก็ได้
ญเป็นคนหนึ่งที่เอาแต่ใจมากๆมาก่อน(ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่ลดลง^^”) จะเอาอย่างใจ อยากให้อะไรเป็นอย่างใจ
ในเรื่องความรัก เวลารู้สึกทุกข์ แก้ไขอะไร(อีกฝ่าย)ไม่ได้ สิ่งที่ญทำก็คือ พยายามตัดคนนั้นออกไปจากชีวิตเลย เพราะเข้าใจว่าการรักเขาเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ ทั้งที่ที่จริงมันผิด การรักใครไมได้เป็นสาเหตุให้เราหรืออีกฝ่ายทุกข์ ถ้าความรักคือการให้ ความปรารถนาดี
ก่อนหน้านี้ทำแบบนี้มาก็หลายครั้ง บางคนก็แย่มาก สมควรจะตัดจริงๆ แต่บางคนไม่ใช่ แต่ก็ต้องพลาดไปเพราะความไม่เข้าใจต้นเหตุแห่งทุกข์นี่แหละ ทุกข์ทีไร หาทางออกไม่ได้ ก็อยากหนี อยากตัดอีกฝ่ายทิ้งไปเลย
ที่ยกตัวอย่างเรื่องขี้หึง เรื่องขี้น้อยใจนี่เพราะผู้หญิงเป็นกันเยอะค่ะ แล้วหลายครั้ง(คือไม่ใช่ทุกครั้ง) อีกฝ่ายก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดระวัง ขั้นระแวงไปเอง
ถ้าฝึกภาวนาบ่อยๆ มองที่ใจเราบ่อยๆ จะเห็นว่าความทุกข์ก้อนนี้มันเริ่มที่เราก่อน แล้วก็พาลลามไปให้คนอื่นทุกข์ด้วย
ถ้าอยากหายจากทุกข์ ก็ต้องแก้ที่ต้นเหตุคือ ความคิด และนิสัยของเรา เพราะถ้าเราไม่รู้ตัว ไม่รู้ทัน ไม่ว่าจะเปลี่ยนคนรักไปกี่คน เราก็จะทุกข์แบบนี้เหมือนเดิม
พี่ชายเสริมว่า “หญิงค่อยๆเริ่มเข้าใจ ว่าทุกอย่างต้องดูไปที่ใจเรา เรารู้สึกยังไง ก็กรรมของเราอย่างนั้น ความปรุงแต่งของเรา มันปรุงแต่งตามกรรมที่เราทำ ด้วยสาเหตุนี้ จึงไม่มีใครหนีกรรมพ้น เพราะจิตและขันธ์คือผู้เก็บกรรม และไม่มีทางที่ปุถุชนจะสามารถทิ้งขันธ์ได้ จิตจะเกาะกับขันธ์เดิมไปจนกว่าจิตจะฉลาดขึ้นจนถึงที่สุด คือเห็นแล้วว่าทั้งจิตและขันธ์ไม่ใช่เราและดับขันธ์แต่ละขันธ์ลงด้วยตัวจิตเองเมื่อหมดวาระของมันซึ่งก็เป็นไปตามกรรมอีกนั่นแหละ ไม่ใช่จะมีใครสั่งให้ติดๆดับๆได้”
ความทุกข์ไม่ได้อยู่ที่คำพูด หรือการกระทำของใคร
เราสั่งตนเองให้หายทุกข์ไม่ได้ สิ่งทั้งหลายล้วนเกิดแต่เหตุ หากเราไม่ได้ตัดที่ต้นเหตุแห่งทุกข์ เราก็จะทุกข์แบบเดิมไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเข้าใจต้นเหตุแล้ว ตัดที่ต้นเหตุแล้ว เหมือนถอนรากของต้นไม้แล้ว มันก็จะไม่กลับมาเจริญเติบโตในใจเราอีก :)