คุณค่าของความรัก
ถาม. ช่วยชี้แนะวิธีการตัดใจจากคนรักด้วยค่ะ ว่าต้องฝึกใจอย่างไร พยายามสละแล้ว แต่ใจคงยังยึดติดอยู่มั้งคะ เลยยังรู้สึกทุกข์ ช่วงจิตไม่นิ่งก็จะฟุ้งมากค่ะ คงเป็นเพราะใจยังยึดติดกับสิ่งดีๆที่เค้าเคยทำให้ ชอบย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่เค้ายังรักเรามาก แต่พออยู่กับปัจจุบันที่เค้าหมดรักเราแล้ว มันก็เสียใจมากค่ะ พยายามทำความเข้าใจแล้วก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ใจก็ยังเป็นทุกข์ค่ะ ยังอยากจะรอเค้ากลับมา ทั้งที่มันก็คงไม่มีโอกาสแล้ว รบกวนช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
ตอบ . ที่ฟุ้งมากเพราะความทุกข์มันแรงมาก แล้วสติเรามีกำลังน้อยกว่าก็เป็นธรรมดาที่จะถูกมันลากไป
ญเคยบอกเพื่อนญคนหนึ่งเมื่อนานแล้ว ความทรงจำที่ดีจะไม่ใช่เรื่องดีถ้าเราเอามันมาทำร้ายตัวเอง เวลาคิดถึงเรื่องดีๆ ถ้าคิดแล้วทำร้ายตัวเอง ให้มีสติรู้ทันค่ะ:) ถ้าเป็นเรื่องที่ดีจริง มันต้องช่วยให้ชีวิตดีขึ้นนะ ไว้เข้าใจความรักมากขึ้น จะรู้ว่ามันมีความรักแบบที่ทำให้ชีวิตดีในปัจจุบันและอนาคต
หลายคนเขียนมาปรึกษาว่าอยากลืมคนที่รัก ญก็มักจะตอบอย่างที่พี่ชายสอนคือ เราไม่ได้เจ็บเพราะจำได้ แต่เจ็บเพราะเราไม่เข้าใจสาเหตุแห่งทุกข์ของตนเอง เมื่อไม่เข้าใจสาเหตุ มีรักกี่ครั้งเราก็ต้องทุกข์เรื่องเดิมๆ ไปจนกว่าจะเรียนรู้ ลองวิเคราะห์กันดีๆว่าเรากำลังหลงรักอะไร ตัวคนรักจริงๆอยู่ที่ไหน?
อันนี้พี่ชายช่วยชี้ให้เห็น คนและสัตว์เป็นก้อนธาตุ กำเนิดมาจากสเปิร์มของพ่อ ไข่ของแม่ เติบโตมาได้เพราะหมูเห็ดเป็ดไก่ มองเข้ามาที่ร่างกายก็เป็นก้อนธาตุที่มาจากสิ่งเหล่านั้น มีตับ ไต ม้าม ปอด เนื้อ หนัง ลมหายใจเหมือนกัน (ต่างกันแค่ที่หนังหุ้ม และโครงร่างต่างกันนิดหน่อย ลอกหนังออกก็ดูไม่ได้เหมือนกันหมด ไม่ลอกหนังออกนานไปก็เปื่อย เหี่ยว ตายเน่าเหมือนกัน) ที่มีชื่อว่า หญิง กิ๊บ เก๋ ป๋อง และอื่นๆ ก็เกิดจากการสมมติที่คนเราตั้งชื่อให้ ก้อนธาตุนี้ดูจะให้สุขทุกข์เราได้มากมายก็เพราะมาจากความคิดของเราเท่านั้น
ญ ก็ว่า ณเดชหล่อ แต่ญก็ไม่ได้หลงรักแบบเค้าไม่รักญแล้ว ญ จะขาดใจ ^^
ความคิดไม่ใช่ของจริง ถ้าเป็นของจริงทุกคนก็ต้องคิดเหมือนกัน การให้ค่าทุกคนต่างกันเพราะความเห็นของแต่ละคนเท่านั้น
ด้วยเหตุแห่งความไม่รู้ที่มาที่ไปของความรู้สึก ทั้งๆที่เราก็รู้ว่าเรารู้สึกรักไปเองอย่างไม่มีเหตุผล เช่น เจ็บก็ยังรัก แต่หาเหตุผลไม่ได้เราก็ยังเชื่อมัน เชื่อว่าเรารักคนนี้ และจะต้องอยู่กับคนนี้ มันเป็นเหมือนหนังที่สวยหรูดูดีว่ารักจริง แต่ที่จริงแล้วถ้าเราเข้าใจความจริงของชีวิตตามที่พระพุทธเจ้าบอก เราก็จะรู้ว่าเราทุกคนเวียนเกิดเวียนตายในสังสารวัฏมาแล้วไม่รู้กี่ชาติ ทุกคนเหมือนนักเดินทางที่แวะมาเจอกันชั่วคราวตามวาระ แล้วแต่ละคนก็ต้องแยกไปตามทิศทางกรรมของตนเอง
สาเหตุที่เรายึด(ที่เราใช้คำว่ารัก)มันเป็นเพราะกรรมที่ทำมาค่ะ พูดคร่าวๆคือ ทำกรรมไม่ดีก็ส่งให้ใจมาผูกยึดกับคนที่จะทำให้เราเสียใจ ทำกรรมดีมาก็จะส่งให้เราผูกยึดกับคนที่จะให้ความสุขกับเรา ส่วนใหญ่จะมีคละเคล้า หรือเป็นกรรมที่เราตั้งใจผูกยึดด้วยการอธิษฐานก็ได้ ปัญหาทั้งหมดจึงอยู่ที่กรรม และรากของกรรมคือใจ ถ้าต้องการจะถอนเหตุแห่งทุกข์จึงต้องถอนที่ใจ แก้ที่ต้นเหตุ คือใจเรา
คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเกิดมาเพื่ออะไร ก็เกิดตามหลายภพชาติแบบไม่มีทิศทาง และสิ่งที่พ่วงมากับการเกิดทุกครั้งก็คือ ความเจ็บป่วย ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก การประสบกับสิ่งที่ไม่รัก และตาย เราจึงจำเป็นต้องมาเรียนรู้ว่า เราพบเจอคนหนึ่งๆเพื่ออะไร และเกิดมาเพื่ออะไร
อย่างที่บอกนะคะเราเจอคนๆหนึ่งเนื่องจากกรรม เราไม่จากเค้าวันนี้ ยังไงเราก็ต้องตายจากกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญไม่ใช่การได้อยู่ร่วมกันนะ แต่คือการได้เรียนรู้ ว่าเค้าเข้ามาสอนอะไรเรา เค้าเข้ามาเป็นตัวแสดงสิ่งที่เราเคยทำตามกรรม ถ้าเราเรียนรู้สาเหตุที่ผูกมาเราก็จะคลายมันออกได้ ความหลงยึดจะหายไป ลองอ่านในหนังสือเหตุเกิดจากความรักนะคะ http://www.sangtean.com/love/reading ในนั้นเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด เขียนไว้ทั้งเรื่องความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องความรัก และเรื่องกรรม รวมถึงวิธีที่จะฝึกหัดจิตใจให้คลายจากความทุกข์ได้ยิ่งๆขึ้น จนไม่ต้องทุกข์อีก
ถ้าเราเข้าใจความรักแล้ว รู้ว่าเรารักเพื่ออะไร ต่อไปเราจะใช้ความรักได้อย่างมีคุณค่า ทุกครั้งที่มีความรัก มันคือการพัฒนาตนเองไปสู่ความพ้นทุกข์ยิ่งๆขึ้น ซึ่งพ้นทุกข์ก็คือมีสุขมากขึ้น
พี่ชายสอนเสมอว่า เราไม่ได้รักเพื่อจะยึด ยึดเมื่อไหร่ทุกข์เมื่อนั้น เพราะมันไม่มีอะไรบนโลกที่ยึดได้ ตัวตนสักวันหนึ่งก็ต้องตายไปหมด อารมณ์ก็ไม่คงที่ ถ้าเราเอาใจไปพึ่งสิ่งอื่น ต้องทุกข์ล้านเปอร์เซนต์อย่างไม่มีเงื่อนไข ดังนั้นสาระของความรักไม่ใช่การมีความสุขชั่วคราว หรือมีสุขแล้วทุกข์นะ การยึดที่ตัวบุคคลจะทำให้เราไม่ก้าวหน้า อย่าเล็งที่คน เล็งไปที่การเจริญเติบโตทางด้านจิตใจดีกว่า ใจพัฒนาแล้วชีวิตเราพัฒนาทุกด้าน :)
เป้าหมายของศาสนาพุทธคือถอดทอนความเห็นผิดของใจตามที่ได้อธิบายมา ทุกอย่างมันเป็นไตรลักษณ์ จะต้องเปลี่ยนแปลง คงอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ เป็นไปตามเหตุปัจจัยไม่ใช่เป็นของเราที่เราจะสั่งได้ ถอนความเห็นผิดก็คือถอนความยึด ถอนความยึดได้ เราจะรู้จักรักอย่างมีอิสระ เป็นรักที่มีความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ:)
เปลี่ยนที่ใจเรา แล้วกรรมเราจะเปลี่ยนไป การจะรักคนที่ดี เห็นความดีของใครได้ ใจเราต้องรู้จักความดีก่อน แล้วก็รู้จักรักก่อนจึงจะหาความรักเจอ อยากให้ลองอ่านเรื่องพระเวสสันดร ลองศึกษาความรักของพระเวสสันดรกับพระนางมัทรีที่รักกัน ตั้งใจทำเพื่อคนอื่น เพื่อความสุขของส่วนรวม ความรักแบบนี้มีคุณค่ากว่าความรักด้วยกาม ด้วยการครองครอง ความสุขจากการที่ต้องผูกมัดว่าต้องอยู่ร่วมกัน ได้กินข้าว ดูหนังฟังเพลงด้วยกัน กอด จูบ และอื่นๆร่วมกันอย่างไร รักแบบไหนที่ทำให้ยึด แล้วต้องทุกข์ไม่เลิก รักแบบไหนที่พาให้ตนและผู้อื่นพ้นทุกข์ เลือกรักแบบไหนแล้วก็พัฒนาใจตนเองให้เป็นแบบนั้น ก็จะได้สิ่งนั้นค่ะ:)