เราเป็นในสิ่งที่เราคิด

คุณคิดว่าความคิดของตนเองมีความสำคัญต่อชีวิตขนาดไหน?

 

ไม่ว่าจะทำอะไร จุดเริ่มต้นของเราทุกคนอยู่ที่ใจทั้งนั้นค่ะ ลองอ่านชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกหลายคนดูซีคะ หลายคน เค้าไม่ได้เพียบพร้อมด้วยพื้นเพ ฐานะ หรือการศึกษา แต่เค้าพร้อมที่ใจ ยกตัวอย่างสตีฟ จ๊อปส์เจ้าพ่อApple iPhoneที่ฮิตทั่วโลกตอนนี้ พื้นเพเค้าเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย เป็นลูกของคุณแม่วัยใสที่ท้องตอนยังเรียนไม่จบ และต้องระหกระเหินไปอยู่กับพ่อแม่เลี้ยงที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัยเช่นกัน แต่เขาก็ประสบความสำเร็จได้

 

ย้อนกลับมาดูที่ตัวเราเอง บ่อยครั้งแค่ไหน เวลาที่ทุกข์ ที่อกหัก เราเชื่อว่าเราอ่อนแอ เราเชื่อว่าเราไม่มีคุณค่า เราเชื่อว่าเราไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ เราอาจจะเคยผิดหวังมาบ่อยจนเราไม่กล้าหวัง และบอกตนเองจนเชื่อไปว่าเราไม่มีทางจะมีความรักในแบบที่เราฝัน 

 

คนทั่วไปกับคนที่ประสบความสำเร็จต่างกันตรงนี้ค่ะ


คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่คิดบวก มองไกล เขาตั้งเป้าหมายที่แม้ไกลก็ต้องไปให้ถึง

 

ญ ได้อ่านหนังสือจิตวิทยาเล่มหนึ่งที่ญเห็นว่าดีมากๆ เค้าบอกว่า “เมื่อเราคิดว่าเราทำได้ จิตของเราก็จะพยายามแสวงหาวิธีทางทำให้มันเป็นจริง แต่ถ้าเราคิดว่าเราทำไม่ได้ จิตของเราจะพยายามไปหาเหตุผลให้เราเชื่อว่าเราเป็นอย่างนั้น” เช่น เราไม่สมควรที่จะมีความรักที่ดีหรอกเพราะเราไม่ดีพอ เราผ่านพ้นมันไปไม่ได้หรอก เราอ่อนแอเกินไป โดยที่ไม่พยายามหาทางทำให้ตนเองดีพอเพื่อคู่ควรกับรักที่ดี หรือพยายามเข้มแข็งเพราะไม่อยากทุกข์เลย

 

สำหรับตัว ญ เอง บอกได้เลยว่าเมื่อก่อนเป็นคนมองโลกในแง่ลบมาก อ่อนแอ ขี้กลัวเพราะเจ็บกับความรักมาเยอะและหนักมากๆจนไม่เป็นอันกิน อันดำเนินชีวิตหลายครั้ง ผลก็คือการทำตัวจมอยู่กับกองทุกข์ แทนที่จะเอาความทุกข์มาเป็นบทเรียนว่ามันสอนอะไรเรา เพื่อไม่ให้ต้องผิดพลาดซ้ำๆ

(ยกตัวอย่างจากพี่ตุลย์ (ดังตฤณ)) เหมือนตัวตกอยู่ในบ่อโคลน ทั้งสกปรกและเหม็น ไม่ชอบ อึดอัด แต่ไม่พยายามจะหาทางขึ้น ได้แต่ร้องไห้ "ฉันไม่ชอบ ฉันไม่ชอบ แต่ฉันปีนขึ้นไปไม่ไหว (บางทีอาจจะแค่ลุกขึ้นมา แล้วก้าวอีกก้าวก็พ้น)

 

จนเมื่อวันหนึ่ง วันที่ ญ ทุกข์อย่างถึงที่สุด (ช่วงนั้นกินข้าวไม่ได้ น้ำหนักลดไปเกือบห้าโล ขาแทบไม่มีแรง และมืดมนหนทางสุดๆ) ญ เริ่มคิดได้ว่า ถ้าตายไปทั้งแบบนี้ จิตเศร้าแบบนี้ตายไปไม่ดีแน่ แถมชาตินี้ยังโง่ขนาดนี้ ชาติหน้าคงไม่ฉลาดหรือโชคดีกว่านี้แน่ถ้าไม่ทำอะไรให้มันดีขึ้น ยังไงชาตินี้อย่างน้อยโชคดีเจอพี่ชายทางธรรมที่สามารถสอนเราได้ มีพระพุทธศาสนาที่มุ่งเน้นสอนเรื่องความพ้นทุกข์ เลยตั้งใจขึ้นมาใหม่ มีประโยคนึงเป็นสโลแกนเลย "จะไม่ยอมทุกข์ซ้ำซากแบบนี้อีก" ญ จะหาวิธีทางทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ต้องมาทุกข์เรื่องเดิมๆแบบนี้อีก (ลองอ่านบันทึก ช่วงดวงตก ได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ http://leolino21.multiply.com/journal/item/31 ตอนนั้น ญ หาทางทำทุกวิถีทางจริงๆ นึกอะไรออก พี่ชายแนะนำอะไร มีแรงทำแค่ไหนก็ทำหมด) ญ หาทางทำทุกวิถีทางจนพ้นทุกข์ มีความสุขมากขึ้นได้เป็นเปลาะๆ ก็เพราะใจไม่ยอมเชื่อว่า เราต้องเป็นแบบนี้อันจะนำไปสู่การปิดกั้นไม่ให้ตัวเองทำอะไรให้ดีขึ้น

 

พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องกรรมเก่ากรรมใหม่ กรรมเก่าส่งให้เราพบสิ่งกระทบให้ทุกข์สุขอย่างไรก็เรื่องหนึ่ง แต่กรรมใหม่เราสร้าง เราเลือกเอง เรามีสิทธิทำอะไรให้มันดีขึ้นได้ พระอาจารย์มิตซูโอะกล่าวว่า ปัญญาเท่านั้นที่เปลี่ยนความโชคร้ายให้เป็นโชคดีได้

 

ขอเพียงเราไม่มองโลกในแง่ลบ เชื่อว่าชีวิตเราได้แค่นี้ เราเองก็คู่ควรกับสิ่งที่มีคุณค่า

และใช้ความทุกข์และปัญหา มาช่วยสอนใจเรา ลับปัญญาเรา เราจะต้องทำชีวิตตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

แพ้ที่ใจอย่างเดียว เราแพ้ทุกอย่างตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง ชนะใจตนเองอย่างเดียว แม้พลาดก็ไม่ได้แปลว่าล้มเหลว แต่มันเป็นโอกาสให้เรารู้ผิดจนถูกได้ แม้ยังไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้แค่ยังเดินไม่ถึง แต่อย่างน้อยเราก็ออกเดินทางมาแล้ว(มีแผนที่แล้ว ใครยังไม่มีแผนที่โหลดอ่านหนังสือเหตุเกิดจากความรักได้นะคะ^^ http://issuu.com/gwync/docs/love_whole_book_page )

 

เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ^^


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.