ของฉัน!!!

mineสังเกตไหมคะ
ตั้งแต่ลืมตาดูโลก เราก็ถูกสอนและบอกว่ามีอะไรของตนเอง
เริ่มตั้งแต่มีพ่อแม่พี่น้องของตนเอง
พอโตมาหน่อยเราก็อยากมีของเล่นของตนเอง มีเพื่อนของตนเอง
พอเริ่มโตอีกเราก็อยากมีมือถือ มีรถ มีบ้านของตนเอง
จนถึงอยากมีแฟน มีลูกของตนเอง
และอื่นๆ…

เคยนับเล่นๆไหมคะว่าเรามีของที่เป็นของเราเองอยู่กี่อย่าง
ของที่นับได้และอยู่กับเราเรื่อยๆมาตั้งแต่เริ่มครอบครองมีกี่อย่าง....
และของที่เรานับไม่ได้อีกกี่อย่าง ที่เหมือนจะเป็นของเราเพียงช่วงเวลาหนึ่ง แล้ววันหนึ่งก็เปลี่ยนไป อย่างเช่น แฟนหรือเพื่อน เป็นต้น

ทั้งชีวิตเราถูกสอนให้หมุนตามโลก ตามแฟชั่น ตามกระแส ตามสิ่งที่หลายๆคนบอกว่ามีแล้วจะดี
เราอยากมี อยากครอบครอง โดยการชักจูง คล้อยตาม
เราอยากมีอะไรของตัวเองตั้งหลายร้อยหลายพันอย่างตั้งแต่เกิดมา
แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่มีเป็นของตัวเองเลยมาตั้งแต่ออกไปวิ่งตามหา ตามความอยากก็คือ “ใจ”

ตอนวิ่งอยากมีอะไรของตัวเอง เรามองเห็นความทุกข์ในแต่ละขั้นไหมคะ
เราทุกข์เพราะอยากจะได้มา ต้องดิ้นรน เก็บตังค์ ออกแรง วางแผน รอคอย
เราทุกข์เมื่อได้มาแล้วต้องพยายามรักษาเพราะกลัวสูญเสีย ยิ่งเป็นของที่เราเชื่อว่ามีคุณค่ามาก ยิ่งเราอยากให้เป็นของเรามากๆ เราก็ยิ่งกลัวและเกิดความกังวล
และเมื่อเรามาพบความจริงว่าไม่มีอะไรที่จะคงสภาพอยู่แน่นอนเราก็ต้องมาทุกข์เพราะสูญเสียมันไปอีก
ที่เราต้องทุกข์ทั้งหมดนี้ก็เพราะเราควบคุมอะไรที่เราไปแปะป้ายว่าเป็นของเราไม่ได้จริง
อ้าว แล้วมันจะเป็นของเราได้ไงล่ะเนี่ย^^”

แล้วถามว่าทำยังไงเราถึงจะพ้นสภาพนี้ไปได้ล่ะ ในเมื่อเราควบคุมอะไรไม่ได้เลย และไม่มีใจเป็นของตนเองด้วยซ้ำ

คำตอบก็คือ เมื่อเราเลิกพยายามเอาชนะ หรืออยากควบคุมสิ่งต่างๆ เราก็พ้นจากการถูกมันควบคุม
ไม่ไปวิ่งตามความอยาก ทั้งอยากได้ อยากไม่ ทั้งหลาย
รู้ทันความดิ้นรนที่อยู่ในใจ
เมื่อเราไม่ต้องวิ่งตามโลกก็ไม่เหนื่อย
และเมื่อเราหยุด เราจะเห็นว่าโลกหมุนไปเป็นวัฎจักรเดิมๆ

เมื่อเช้ามีสุข ตอนบ่ายก็อาจทุกข์ได้ และเดี๋ยวๆตอนเย็นก็อาจจะกลับมาสุขได้ใหม่
แฟนลืมรักเราวันนี้เพราะเครียดเรื่องงาน เพราะแมนยูแพ้ บลาๆๆ แต่พอเรายิ้มหวานๆ พูดจาคะขาน่ารัก เค้าก็อาจกลับมาสนใจ มารักเราได้ใหม่ ประมาณนั้น^^

หรือถ้าเค้าเลิกรักเราไปแล้ว วันนี้เรายังรักเขาเลยทุกข์ ปีหน้าเราก็อาจเลิกรักเขา ไปรักคนอื่นได้ต่อ

อะไรๆที่อธิบายมาทั้งหมดนี้เป็นการฝึกใจให้รู้จักตั้งมั่นไม่หวั่นไหว กับทั้งมีสติเท่าทันความเป็นจริงเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและดับไปอยู่เรื่อยๆ ทำให้ไม่ต้องหลงยึดว่าอะไรเป็นของเรา

ทั้งหมดนี้คือคำสอนในศาสนาพุทธคือ สมถะและวิปัสสนาที่ใครๆก็ฝึกได้ ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องรอเข้าวัด หรือบวช เพราะทุกคนบนโลกพบเจอธรรมชาติอย่างเดียวกัน :)

บอกใบ้ให้หน่อยก็ได้ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่า “คนเราทุกข์เพราะคิด”

หากเรารู้ทันความคิดที่อยาก ความคิดที่เป็นทุกข์ รู้อย่างกลางๆ ไม่ไปหลงเชื่อว่ามันเป็นเรา

ความทุกข์เราก็จะสั้นลง เพราะไม่ไปหลงต่อเติมคิดมาก ไม่ไปปรุงแต่งสร้างเรื่องเลยไปเป็นหาเรื่องสร้างกรรมให้คนอื่นเดือดร้อนให้ตนต้องไปรับผลต่อ

ฝึกไปบ่อยๆ เราจะชินกับทุกความคิด ทุกความอยาก ทุกความทุกข์ เห็นว่ามันมาเอง มันก็หายไปได้เอง โดยไม่ต้องออกแรงยื้อความสุข หรือผลักความทุกข์เลย :)


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.