วิธีโสดอย่างมั่นใจและมีความสุข ^^
ไม่ค่อยได้เขียนเรื่องความรักของคนโสด เดี๋ยวจะหาว่าคนโสดมีความสุขไม่ได้ ต้องรอมีแฟนอย่างเดียวที่จริงแล้วเรามีความรักก่อนถึงจะมีแฟนนะคะ ไม่ใช่มีแฟนแล้วถึงจะมีความรัก และเราก็ไม่จำเป็นต้องรอมีแฟนถึงจะมีความสุขด้วย เราสามารถมีความสุขได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่ตอนนี้วันนี้ เพราะถ้ารอมีแฟนแล้วค่อยมีความสุข มันเท่ากับเราเสียเวลานานเกินไป
เอาเป็นว่าไม่ว่าตอนนี้คุณจะโสดแบบหล่อสวยเลือกได้
โสดแบบตัดใจจากอดีตไมได้
โสดแบบยังไม่รู้จะไปทางไหน
โสดแบบไม่ตั้งใจ และอื่นๆ
จงจำไว้ว่าสิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องโสดอย่างมีความสุข
บล๊อคนี้จะบอกถึงวิธีสร้างความสุขแบบไม่ง้อใคร แถมยังสร้างเองได้แบบให้มีมากพอจะปูทางพร้อมจะมีคู่ ไม่ว่าถึงเวลาจะอยากมีหรือไม่
ข้อแรกมาเริ่มที่ โสดอย่างมีเป้าหมายค่ะ
ถึงจะโสดอยู่ แต่ก็ควรมีเป้าหมาย มีความพร้อม ไม่ใช่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ รอเจ้าชายขี่ม้าขาว หรือบังเอิญเปิดผอบเจอนางในฝัน
ถ้าคุณยังมีวงจรชีวิตแบบเดิมๆ
มีแฟน…. ชีวิตและความสุขก็ขึ้นอยู่กับแฟน
ไม่มีแฟน… ชีวิตและความสนุกก็ขึ้นอยู่กับเพื่อน มันออกจะดูแพลนๆไปนะคะว่าไหม
ลองเปลี่ยนวงจรชีวิตเป็นอะไรใหม่ๆบ้าง เช่นเราจะสร้างความสุขได้ด้วยตนเอง เพื่อเลือกทางเดิน และวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไป
ข้อสอง โสดอย่างมีหลักการ
เมื่อมีเป้าหมายแล้ว ก็ต้องรู้ด้วยว่าวิธีที่จะเดินไปถึงจุดหมายนั้นต้องทำอย่างไร
คนที่มั่นใจในตัวเองนั้น ดูดีมีเสน่ห์ แต่ก่อนอื่นเราต้องทำตัวเองให้มีดีให้มั่นใจก่อน คนที่มีความสุขนั้นใครๆก็อยากอยู่ใกล้ โลกนี้มีแต่คนเหงา ต้องการที่พึ่ง หากเราไม่เข้าใจความเป็นจริงข้อนี้ ก็เหมือนคนเตี้ยอุ้มค่อม เหงากับเหงามาเจอกัน
คนที่ไม่รู้จักสร้างความสุขให้ตนเอง คือต้องพึ่งพาคนอื่น ก็คือคนที่ดูแลตนเองไม่เป็น เมื่อดูแลตนเองไม่เป็นจะดูแลคนอื่นได้อย่างไร ถ้าคนเหงาสองคนมาเจอกัน หวังแต่จะกอบโกยความสุขจากอีกฝ่าย ความรักมันจะไม่ใช่การให้ และอิสระ แต่มันจะเป็นการจ้องจะเอา อยู่เหนืออีกฝ่าย นานๆไปจะกลายเป็นกรงขังโดยใช้คำว่าคู่รักมาผูกมัดเป็นหน้าที่เสียมากกว่า
ถ้าอยากมีความสุขได้ด้วยตนเองก็ต้อง รู้จักสร้างมันขึ้นมาเอง วิธีก็คือ ให้ความสุขคนอื่น แทนที่จะไปวิ่งตามหาค่ะ
มีคนที่มีความทุกข์อยู่บนโลกอีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ จะช่วยแบบเอาของไปให้ จะช่วยแบบให้คำปรึกษา ก็ได้ ยกตัวอย่างการช่วยง๊ายง่ายก็เช่น ช่วยน้องหมาน้องแมวถูกทอดทิ้ง เด็กน้อยตาดำๆถูกทอดทิ้ง กลุ่มตัวอย่างเหล่านี้ขาดความรักของจริงค่ะ และจะดีมากถ้าได้ช่วยเหลือคนใกล้ตัวด้วย เพราะช่วยได้บ่อยกว่าและทำได้ทุกวัน การช่วยเหลือผู้อื่นนอกจากจะสอนให้เรารู้ตัวเองว่าที่จริงเราก็ดูแลคนอื่นได้นะ เราก็เป็นที่พึ่งให้คนอื่นได้แล้ว มันยังทำให้เรารู้สึกเข้มแข็ง
วิธีถัดมาที่อยากแนะนำก็คือ การลองเดินทางไปทำสังฆทาน ทำบุญที่วัดด้วยตนเองคนเดียว ทำบ่อยๆแล้วใจอธิษฐานขอว่า ให้เราเข้มแข็งสามารถเป็นที่พึ่งให้กับตนเองและคนอื่นได้ ทำบ่อยๆ จนเริ่มชินและมีความสุข
ต่อมาก็ลองทำอะไรที่ปกติต้องไปกับแฟนกับเพื่อนเป็นมาทำด้วยตนเองเช่น ช๊อปปิ้งเอง กินข้าวเองได้(ดี ไม่ต้องรอใคร^^)
เมื่อเราทำดี รู้จักให้เป็นก็แปลว่าเราเริ่มรู้จักนิยามความรักว่าคือการให้แล้ว และเมื่อเราสามารถให้คนอื่น และทำอะไรด้วยตนเองจนมีความสุขได้แล้ว
ขั้นถัดมาสำคัญมากที่เราต้อง “รู้จักตนเอง”
ไม่ใช่ว่ารู้จักว่าเราชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน แต่รู้จักว่าตนเองกำลังทำอะไร และมีข้อดีตรงไหนให้มั่นใจ มีข้อเสียตรงไหนให้ต้องปรับปรุง
คนส่วนมากไม่รู้จักตนเอง ต้องให้คนอื่นตัดสินหรือบอกว่าตนเองเป็นอย่างไร ก่อนหน้าเราอาจไม่รู้จักตนเองและไม่เคยทำดีอะไร พอแฟนทิ้ง หรือไม่มีคนเหลียวแล(เพราะมัวแต่ทำหน้าเศร้า อมทุกข์)เราก็เชื่อตามนั้น ก็เลยกลายเป็นยิ่งหดหู่ แต่พอเรารู้จักทำดี สร้างความสุขให้คนอื่นเป็นแล้ว เราก็ต้องย้อนมาดูตนเองมากขึ้น ฟังคำวิจารณ์จากคนอื่นครึ่งเดียวพอ เพราะไม่มีใครอยู่กับเรา24ชั่วโมง มีเราที่เห็นตนเอง รู้จักตนเองดีที่สุด ถ้าเราย้อนมาดูตนเองบ่อยๆ มีการกระทำเพื่อให้เป็นหลักฐาน ว่าเราสามารถทำประโยชน์ให้คนอื่นได้ ไม่ได้ไร้ค่า เราทำอะไรด้วยตนเองก็มีความสุขได้ ไม่ต้องร้องขอจากใครนี่ เราก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ง้อให้ใครมาให้ค่าเราเลย
ถ้าจะให้ดีแนะนำให้รู้จักการฝึกฝนใจ รู้เท่าทันความคิดที่คิดมาก หรือไม่มีความสุข หรือความคิดที่ไม่ดีที่จะไปเบียดเบียนคนอื่นบ่อยๆ ว่าความคิดต่างๆมันเป็นตัวการทำให้เราทุกข์ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต มันทำให้ใจเราดูหม่นหมอง ไม่สดใส น่ารักหน้ามอง น่าเข้าใกล้ ก็จะทำให้จิตใจเราสว่าง และสวยงามขึ้นมา
(ซึ่งข้อนี้ก็คือการภาวนาในทางพุทธค่ะ)
พอเราให้ความรักคนอื่นได้ ก็แปลว่าเรามีความรักอยู่กับตัวตลอดเวลา
แล้วฝึกฝนใจบ่อยๆ ก็เลยทำให้เข้าใจว่า ทุกข์มันเริ่มที่ใจเรา รู้ทัน ไม่ไปต่อเติม มันก็หยุดที่ใจเรา ไม่ต้องไปพยายามหาทางดับด้วยการเดินทาง เสียเงินไปดูหนังฟังเพลง รอคอยความเมตตาสงสารจากใคร
เอาเป็นว่าตอนนี้ตอบโจทย์แล้วนะคะ สร้างสุขเองก็ได้ ทุกข์มาก็รู้ทันไม่ไปถือกำมันไว้ เท่านี้ก็โสดแบบสุขสุดๆ ไม่ต้องง้อใครเลย ^^
และเมื่อเราสร้างความสุขเองได้แล้วก็พร้อมจะมีคนรักเพื่อแบ่งความสุขให้ พอเราพึ่งพาตนเองได้ ก็มั่นใจว่าเรามีแฟนเพื่อเกื้อกูลกัน ไม่ใช่เพื่อเป็นภาระแก่กัน :)