วิธีละความรักและความผูกพัน

 

ถาม. ทำอย่างไรจึงจะละความรักได้คะ เพราะความรักคือความทุกข์ พอไม่สมหวังก็เกิดความโศก และเป็นอุปสรรคต่อการนั่งสมาธิ

พี่โจ้ตอบ. ตามที่เห็นมา ความรักชนิดที่เป็นเมตตาไม่ทำให้เกิดทุกข์ แต่ความหลงทำให้ทุกข์ครับ

เราพอสรุปความได้ว่า รักคืออยากให้ หลงคืออยากได้ ซึ่งการให้นี้ ถ้าไม่มีผู้รับ ก็แล้วๆกันไป แต่ถ้าจะเอาแล้วไม่ได้นี่ท่าจะแย่ครับ

ด้วยเหตุดังกล่าว ขอเปลี่ยนประโยคเป็น "ทำอย่างไรจึงจะละความหลงได้คะ" อาจจะเหมาะสมกว่าไหมครับ?

การละความหลง ต้องดูเข้าไปที่ความหลง ว่าความหลงคืออะไร เกิดจากอะไร หลงคือไม่รู้ ถ้ารู้ก็ไม่เรียกว่าหลง

ความรักชนิดที่เป็นความหลงนั้น ไม่รู้แม้กระทั่งว่า หลงตรงไหน หลงไปทำไม ก็เพราะหลง ขาดความรู้ ที่ว่าขาดความรู้ในที่นี้คือ ขาดความรู้ตัวว่ากำลังหลง ถ้ารู้ตัว ก็ไม่เรียกว่าหลงแล้ว

เช่นเดียวกับการเดินทาง สภาพที่เราจะเรียกว่าหลงทางนั้น คือเราไม่รู้ว่าเราอยู่ตรงไหน หรือไม่รู้ว่าเราจะไปไหน หรือควรจะไปทางไหน จึงเรียกว่าหลง

ความหลงในจิตใจก็เช่นเดียวกัน เมื่อใดที่เราขาดความรู้ตัว ว่าเราเป็นใคร กำลังทำอะไร ทำไปเพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร หรือว่าทำแบบนี้แล้วจะเกิดอะไร นี่เป็นสิ่งที่เวิ้งว้าง ยิ่งเราขาดความรู้ตัวหรือขาดความรู้จักตนเองมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเวิ้งว้าง ไร้ทางไป ไร้จุดหมายในระดับของจิตใจมากขึ้นเท่านั้น ความขาดความรู้จักตนเองนี้ เรียกได้อีกอย่างว่าความเหงา ซึ่งสามารถขจัดได้ง่ายๆด้วยการใช้จิตย้อนมาทำความรู้จักกับจิตใจตนเอง เมื่อรู้จักตนเอง รู้ทันอาการต่างๆของจิตใจแล้ว ความเหงาจะค่อยๆบรรเทาลง ความไร้จุดหมาย อาการไม่รู้ว่าทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ทำแบบไร้ทิศทางก็จะค่อยๆหายไป

อาการขาดความรู้ตัว หลงไปกับอารมณ์ปรุงแต่งของตนเอง หลงไปกับกิเลสนี้ให้ผลเป็นความทุกข์ได้เกือบทุกกรณี โดยเฉพาะเมื่อหลงไปยึดกับสิ่งที่ไม่เป็นตัวไม่เป็นตน หลงไปยึดกับสิ่งที่ไม่เที่ยง

พระศาสดาแสดงไว้ดีแล้ว ว่าสิ่งที่มีเกิด ก็ต้องมีดับ การไปยึดกับสิ่งใดก็ตามที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน สั่งไม่ได้ ก็ย่อมให้ผลเป็นทุกข์ เพราะไม่มีตัวตนให้ยึดไว้ จึงเรียกอีกอย่างว่า "หลงเข้าไปยึด" หรือ ยึดไว้เพราะความหลง นั่นเองครับ

การละความหลง กระทำได้โดยการอบรม (ทั้งอบทั้งรม) จิตด้วยความรู้ตัว เริ่มที่การทำความรู้จักกับจิต ค้นหาจิตผู้รู้ให้เจอ โดยการพิจารณาในขอบเขตของกายตั้งแต่หัวจรดเท้านี้ ว่าการรับรู้ทั้งทางกาย การรับรู้ความคิด การรับรู้เวทนา (ความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ/เฉยๆ)ทั้งหมดไปสิ้นสุดที่ไหน เมื่อจับเอาจิตผู้รู้ได้แล้ว ก็เพียงเฝ้ารู้ตัวจิตผู้รู้นี้ไปเรื่อยๆ ความเห็น ความรู้เกี่ยวกับจิตก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นไปตามลำดับพร้อมๆกับความหลงที่ค่อยๆลดลง เข้าใจได้ว่าความหลงเกิดอย่างไร นำไปสู่ทุกข์ได้อย่างไร ความรู้ดับความหลงได้อย่างไร ดับความทุกข์ได้อย่างไร

เจริญในธรรมครับ

++++

ถาม.เรารู้สึกว่าความรักมันไม่ได้น่ากลัว เท่าความผูกพันค่ะ เรารู้สึกว่าความผูกพันเหมือนมีกระแสที่คอยผูกมัดไว้ไม่ให้ไปไหน แม้จะมันจะไม่ใช่คงวามรักก็ตาม แล้วจะตัดกระแสผูกพันนี้ได้ยังไงคะ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่อยากจะทราบค่ะ

พี่โจ้ตอบ.ขอตอบคำถามนี้ด้วยคำถามครับ ว่าเวลาคุณไปจับเอาเตารีดร้อนๆนั้น ต้องมีคำพูด มีเหตุผลอธิบายให้ปล่อยมือจากเตารีดร้อนๆหรือไม่

ความผูกพันก็เช่นเดียวกันครับ เมื่อยังเห็นไม่ชัดว่่ามันทุกข์ยังไง ด้วยความที่ทุกข์มันเกิดช้า ช่วงระยะที่โดดเข้าไปเพราะ "ความผูกพัน" นี่ มันเต็มมันท่วมไปด้วยความหลง ความปรุงแต่งอันเป็นความคาดหมายว่าจะมีความสุข จนกว่าจะเห็นว่า ที่สุดแล้ว มันก็ทุกข์ทั้งแท่ง ด้วยเหตุว่า อะไรที่มีเริ่มก็ต้องมีจบ คนที่ไปยึดเข้านี่ สักวันหนึ่งก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ และสุดท้ายก็ต้องตายจากกันไป

ตัวที่เห็นไปล่วงหน้า ว่าอะไรที่มีเริ่ม ก็ต้องมีสิ้นสุด ตัวที่เห็นไปล่วงหน้าว่า เดี๋ยวก็แก่ เดี๋ยวก็เจ็บ เดี๋ยวก็ตาย เดี๋ยวก็ต้องแยกกัน แล้วรู้ทัน "ความผูกพัน" จนไม่เข้าไปยึด แต่เกื้อกูลกันไปอย่างระลึกรู้บั้นปลายนั้นเองที่เป็นตัวปัญญา (ความรู้ชัด รู้แจ้ง) ครับผม


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.