ทำไมคนอกหักแต่ละคนหลุดออกจากความทุกข์ได้เร็วช้าไม่เท่ากัน?
ทำไมคนอกหักแต่ละคนหลุดออกจากความทุกข์ได้เร็วช้าไม่เท่ากัน?
พี่โจ้: ตอบแบบหลักการก็คือปัญญาไม่เท่ากัน แต่ถ้าตอบแบบใช้งานได้ก็คือเค้าไม่ได้สร้างเหตุให้ตนเองมีปัญญา
ปัญญาเป็นเหตุที่สร้างได้ ดังนั้นถ้าใครอยากให้ตนเองมีปัญญา ทำตามกฎแห่งกรรมเลย คือเอาปัญญาไปให้คนอื่น เราทำให้คนอื่นเกิดปัญญา ดังนั้นเวลาสอนใคร เรียกว่าทั้งชีวิตผมไม่เคยกั๊กความรู้ใดๆเลย เวลามีใครมาถามก็จะตอบเท่าที่รู้อย่างหมดเปลือก ยิ่งเราให้ปัญญากับคนมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเกิดปัญญาได้ง่ายขึ้นเท่านั้น หรือไม่ในระหว่างที่เราทุกข์ก็จะมีคนมาให้ปัญญาแก่เราเอง
อย่างตอนที่ผมเคยทุกข์มากๆ ต่อให้เราเคยสอนคนอื่นมา แต่เพราะเราจมอยู่กับมัน เราก็มองไม่เห็น แต่พอมีคนมาเชื่อมโยงให้ว่า เพราะทำอย่างนี้จึงทุกข์ หรือว่านี่คือความทุกข์จากสิ่งที่เราทำมาในอดีต ด้วยความที่เราเคยโอบอุ้มคนไว้จำนวนมาก พอเราทุกข์ก็จะมีคนที่เก่งกว่าเรามาช่วยเรา ค่อยๆสอน ค่อยๆชี้ จนขึ้นมาถึงจุดนี้ได้
พอเราเห็นรูปแบบการเข้าไปติดอยู่ในรูปแบบเดิมซ้ำๆ เห็นคนอื่นติดอยู่บ่อยๆแล้วเราไปช่วยเค้าออกมา มีคนชี้ให้เราดูซ้ำ พอถึงจุดหนึ่งเราก็เลิกหลงไปติด สภาพมันเหมือนเรารู้ว่าใจเรากำลังเอื้อมไปจับก้อนถ่านแดงๆ ซึ่งจับแล้วมันต้องร้อนแน่ ลวกมือแน่ แต่แต่ก่อนไม่เห็น แต่ตอนนี้รู้แล้ว ก็แค่ปล่อยทิ้งไปก็เท่านั้นเอง
การให้นี่ก็ไม่จำเป็นต้องให้เป็นเงิน เราสามารถให้ปัญญาช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ คนที่มีความทุกข์นี่มีเยอะแยะเต็มไปหมด ทุกคนมองเห็นปัญหาของคนอื่นได้หมดแหละ แต่มองไม่เห็นปัญหาตนเอง ด้วยหลักการง่ายๆ พอเราไปช่วยแนะนำคนอื่น เราก็จะพอมองออกละว่าคนนี้ทุกข์เพราะอะไร เราก็ไปทำหน้าที่เชื่อมโยงให้เค้าเห็นว่าทุกข์เค้าเกิดจากสิ่งนี้ ถ้าใจเค้าพ้นมาได้ เค้าเชื่อมโยงได้
หลักการง่ายๆนั้นก็เป็นเรื่องกฎแห่งกรรม เช่น คนๆหนึ่งมีความทุกข์ การที่เราอยู่ดีๆจะไปบอกให้เค้าปล่อยวาง คำว่า “ต้องปล่อยวาง” นี่ยังเป็นสิ่งที่นำไปปฏิบัติไม่ได้ คำพูดที่สอนให้เค้าคิดและนำไปปฏิบัติได้คือ “เขาทุกข์เพราะเคยไปทำให้คนอื่นรู้สึกอย่างนี้ ทำให้แทนที่เค้าจะมุ่งไปที่ต้องการอย่างนี้จากคนนี้ หรืออยากให้คนอื่นเปลี่ยน เมื่อไหร่ที่ใจเห็นหรือยอมรับว่าที่ใจมีทุกข์ชนิดนี้เพราะเคยไปทำไว้ เค้าจะลดดีกรีที่จะอยากได้คนๆนั้น ยอมติดอยู่ในบ่วงๆนั้นลง” นี่คือกฎของการเชื่อมโยง เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมเลย