กำหนดรักด้วยความรู้+คนขี้น้อยใจ
วันนี้ตั้งใจเขียน สองเรื่อง แต่ขี้เกียจแยกบทความ ^^"
ก็เลยขออนุญาตเขียนรวมกันนะคะ
อันที่จริง ทั้งสองเรื่องก็ไม่แยกจากกันซะทีเดียว เป็นเรื่องการทำอะไรผิดพลาดด้วยความไม่รู้ อีกเรื่องเป็นวิธีการทำให้รู้ :)
ปัญหาร้อยแปดเรื่องความรักอย่างหนึ่ง ก็คือเรื่อง หึง น้อยใจ จริงๆทุกนิสัยมาจาก "ความคิด" ถ้ารู้ทันความคิด แก้ได้ทุกนิสัยเลยค่ะ
เราอยากให้คนมารักเรา แต่เรามักจะทำเหตุที่ตรงข้ามเสมอ พูดหลายครั้งแล้วว่า คนเราจะรักอะไรได้ มันต้องเกิดจากความเต็มใจ พอใจ เราจะพอใจอะไรก็เพราะมีความสุข ดังนั้นวิธีที่จะทำให้คนอื่นรัก ก็คือ ทำให้คนอื่นมีความสุข (ยกเรื่องกรรมไว้นะคะ จริงๆ อธิบายก็จะมีรายละเอียดเรื่องกรรมอีก คนจะรักกันได้ต้องมีกรรมสัมพันธ์กันด้วย บทความนี้ขอพูดแต่ในส่วนการสร้างเหตุทีดีที่สุดแล้วกัน ส่วนในเรื่องทุกข์นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจที่ตรงตัวคือ เข้าใจเรื่องกรรม แล้วแก้ที่เหตุ อ่านได้จากหนังสือ เหตุเกิดจากความรัก ค่ะ)
การจับผิดเป็นพลังด้านลบ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีต่อตนเอง และต่อเรา
อยากให้อีกฝ่ายพัฒนาขึ้น ให้ใช้พลังด้านบวก รอยยิ้ม ความสดใส กำลัง ใจ จากความปรารถนาดี การมองแง่ดีของอีกฝ่าย ความเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่าย จะทำสิ่งที่ดีที่มีอยู่แล้วในตัวเขางอกงามยิ่งขึ้น ทำให้สิ่งที่ไม่ดีของเขาลดลงเรื่อยๆเอง
ไม่มีทางที่จะใช้กำลังด้านลบทำให้อีกคนมีกำลังบวกได้
งอน ตัดพ้อ ซักไซ้ ต้อน เป็นพลังด้านลบนะคะ
มีสติรู้ทันพลังด้านลบในตัวเรา ไม่ต้องห้าม แต่อย่าตามใจมันจนมันเผาใจเรา แล้วไปเผาความสัมพันธ์ต่อ :)
ผู้ไม่เบียดเบียน จะไม่ถูกเบียดเบียนกลับ
บางคนบอกว่า รู้แล้ว แต่ทำยากมาก
อันนี้เอามาจากที่พี่ชาย และครูบาอาจารย์ทางธรรมสอนคือ ถ้าเรายังไม่เห็นโทษในสิ่งใด(ด้วยใจ) ก็ยังละไม่ได้ จนกว่าจะเห็นว่าทำสิ่งนั้นๆไปก็ไร้ประโยชน์ เกิดแต่โทษต่อตนเองและคนอื่น เห็นบ่อยๆ จึงจะเลิกได้
ยกตัวอย่าง จนกว่าเราจะเห็นว่า น้อยใจ โกรธ หึง ไป ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่ทำให้อะไรมันแย่ขึ้น เห็นบ่อยๆ จากใจตนเองว่ารู้สึกแบบนี้ทีไร ใจทุกข์ทุกที (การศึกษาธรรมะ เค้าจึงสอนให้ดูที่ใจตนเอง แล้วจะเห็น ถ้ามัวแต่ไปสนใจภายนอก คิดว่าจะทำอะไร จะหึงยังไง โทรจิกทุกกี่ชั่วโมง อันนี้แก้ภายนอก ทำไปกี่ครั้งก็ทุกข์ และไม่เห็นว่าต้นเหตุคือใจเราทุกข์อยู่ แล้วเอาทุกข์ที่เป็นไฟนี้ไปสาดใส่คนอื่น) ทำแบบนี้ทีไร ความสัมพันธ์แย่ลงทุกที
ถามว่าเมื่อไหร่จะหาย ตอบก็คือ จนกว่ากรรมจะหมด จนกว่าจะทุกข์จนพอ จนจำได้ว่า ทำอย่างนี้แล้วทุกข์ จนกว่านิสัยเราจะเปลี่ยน จะไม่ทำเหตุไม่ดีอีก อันนี้คือเรื่องของศีล ศีลคือความตั้งใจ งดละ ละเว้น การเบียดเบียนคนอื่น ให้มีผลกลับมาทำให้ตัวเองทุกข์อีก เรียกได้ว่า “ปัจจุบันทุกข์ อนาคตก็ทุกข์ เพราะเกิดจากการรู้ไม่ทันทุกข์ ปล่อยให้ความทุกข์เป็นตัวนำเราสู่ไปอนาคตที่ทุกข์”
ใจที่ทุกข์ในปัจจุบันด้วยความอยาก จะนำพาไปสู่อนาคตที่ทุกข์เสมอ ทางแก้คือ มีสติรู้ทัน ทุกข์ในปัจจุบันจะหยุด และไม่เป็นเหตุให้ทุกข์ในอนาคต
ภาษาธรรมะของครูบาอาจารย์คือ "คนเราทุกข์เพราะไม่รู้"
สังเกตไหมคะว่า เราใช้ชีวิตแบบไม่รู้อนาคต คนส่วนใหญ่พึ่งหมอดู และมีชีวิตแบบคาดเดาเอา ลองผิดลองถูก ทั้งที่ไม่แน่ใจ ทั้งที่รู้ตัวว่าไม่รู้ แต่ก็ทำๆมันไปตามสัญชาตญาณ ตามความรู้สึก ซึ่งกรรมมันก็ส่งมาทางนี้แหละ ส่งให้เราทำตามความรู้สึก เพื่อไปรับผลกรรมตามที่เราทำมา
เราเอาความไม่รู้(การคาดเดาไปเอง) พาไปสู่ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องกรรมไม่ได้
ตอนมีทุกข์ คนเราจะปรุงแต่งไปตามกรรมและนิสัยที่สะสมมาของตัวเอง เจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน แต่ละคนจึงไม่จำเปนต้องคิดและร้สึกอย่างเดียวกัน หรือรู้สึกก็มากน้อยต่างกัน เราคิดอย่างไร โดยเฉพาะในด้านลบ ถ้าไม่รู้ตัวก็เพิ่มความคิดแง่ลบในด้านนั้น ขี้น้อยใจอยู่แล้ว ก็ขี้น้อยใจยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งนานก็ยิ่งทุกข์มากขึ้น จนกว่าจะลด ละ เลิก
จะบอกว่า ถ้าเรามีสติ รู้ปัจจุบัน เราจะเข้าใจทั้งอดีต และรู้อนาคต เพราะ การภาวนา หรือการรู้ใจตนเอง จะช่วยให้เราสังเกตเห็นกระบวนการ เหตุและผล ผลอย่างนี้เพราะเหตุอย่างนี้ ทำเหตุอย่างนี้ก็จะได้ผลอย่างนี้ สังเกตจนเข้าใจ เราจะสามารถกำหนดชีวิตเราได้ด้วย ความรู้จริง
หากเรามีความเข้าใจเรื่องกรรม ฝึกมีสติรู้ทัน รู้ความคิดปรุงแต่งไปก่อนของตนเอง เช่น เค้าเงียบไป ใจก็ปรุงแต่งว่าเค้าต้องแอบไปมีกิ๊กแน่ๆ (ซึ่งเค้าอาจจะเคยทำหรือไม่เคยทำ) เค้าอาจจะเบื่อเราแล้ว แต่ปัจจุบันนี้เรายังไม่รู้ความจริง มันเป็นแค่อาการ “คาดว่า” ฝึกมีสติ “รู้” ทันความคิดว่า แล้วโยงได้ว่า ความคิดในลักษณะนี้จะก่อให้เกิดทุกข์ในใจเราอย่างไร และโยงไปทำให้เกิดคำพูด การกระทำเพื่อก่อทุกข์ให้คนอื่นอย่างไร
เปรียบเทียบกับการ “รู้ทัน” มีสติรู้ตัว ไม่ด่วนสรุปไปก่อน อาการคิดมากจะเกิดขึ้นกี่ครั้งก็รู้ทัน จนกว่าจะเห็นข้อมูลตามจริงที่มากพอแล้วค่อยสรุป
เราจะเห็นว่าทุกข์เกินครึ่งเกิดจากความคิดของตัวเองนั่นแหละ และสุขทุกข์ เราสร้างได้ด้วยตนเอง
ดังนั้น ฝึกสติ รู้ใจ รู้ทัน กันนะคะ ;)