วิธีแสดงความรัก



ถาม. แฟนบอกเราว่าความรู้สึกที่มีมันไม่เหมือนเดิม นอกจากการให้เวลาเค้าทบทวน เราควรทำอย่างไรได้บ้างคะ เพื่อให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นค่ะ เพราะเราเองก็ยังยากลองเริ่มใหม่ดูค่ะ

ตอนนี้จิตใจเราเองก็รู้สึกแย่ค่ะ รู้สึกไม่มั่นคง ไม่เข้าใจ งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น 
คนที่รู้สึกว่าไม่ใช่ เข้ากันไม่ได้มันต้องทั้ง 2ฝ่ายมั้ยคะ มันเหมือนจิ๊กซอที่เข้ากันดีในความรู้สึกเรา ละจิ๊กซออีกตัวมันไม่เข้ากันเป็นไปได้อย่างไรคะ

ตอบ. คนอื่นสับสน ก็สับสนตาม เราสับสนตามเพราะเราเอาใจเราไปผูกกับข้างนอก กับคนอื่น มีชีวิตขึ้นลงตามอารมณ์ของคนอื่น 
เรารู้ตัวเองว่าทำอะไร รักก็คือปรารถนาดี อยากให้เขามีสุขก็พอ ส่วนเขาจะคิดอย่างไร เป็นอย่างไร มันเรื่องของเขา

คนที่ใช่มันก็ต้องใช่ทั้งสองคน ถึงจะอยู่กันได้ 

ถามว่าตอนนี้จะทำอย่างไร อย่างที่เขียนไปในโพสวันก่อน คำพูดและการกระทำเป็นแค่เครื่องมือแสดงความรู้สึก สิ่งที่สำคัญคือใจ
และเราไม่สามารถหลอกใจตัวเองได้ ถ้าใจเรายังทุกข์ ยังรู้สึกไม่ดี พยายามยังไง คำพูด และการกระทำมันก็ไม่ได้ส่งให้คนอื่นรู้สึกมีความสุขตามไปด้วยได้ ที่แสดงออกมาก็เป็นเพียงการ “พยายาม” 
พยายามด้วยความที่ยังไม่เข้าใจ ก็จะเกิดความขัดแย้ง สับสนกันไปมาเอง 

ประเด็นที่จะต้องทำตอนนี้ คือเรื่องการพัฒนาตนเองค่ะ

ประเด็นแรก ไม่ทำเพราะความรู้สึกกดดัน ความกดดันมาจากความรู้สึกว่า ถ้าทำไม่ได้ เค้าจะรู้สึกแย่ เค้าจะทิ้งเราหรือเปล่า? ลองสังเกต แล้วตั้งเจตนาใหม่

ประเด็นสอง ตอนยังคิดมาก ทุกข์เพราะคิดมาก ให้รู้ตัว ไม่ต้องพยายามคิด ดูให้เห็นว่าเรากำลังสร้างทุกข์ให้ตัวเองอยู่ ตอนน้ำมีคลื่น ฝุ่นตะกอนโดนกวนให้น้ำขุ่น เรามองไม่เห็นท้องน้ำหรอก ดูความอยาก อยากหาย อยากอะไรต่างๆ ไม่ไปกวนน้ำ น้ำนิ่งแล้วจึงจะพอเห็นพื้นน้ำ ถ้าช่วงแรกยังฝึกแบบนี้ไม่ได้ หาอะไรดีๆทำก่อนก็ได้ค่ะ เช่น สวดมนต์นึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ความเมตตาที่ท่านสอนธรรมให้เรา เพื่อให้เราพ้นทุกข์ ไปทำทานช่วยคนอื่นให้พ้นทุกข์ มีสุข

ประเด็นสุดท้าย ที่บอกว่าให้รักให้เป็น ต้องมีความสุขก่อน ใจต้องสุขก่อน จะให้อย่างไรให้มีความสุขล่ะ?
ลองอ่านโพสเมื่อวานที่เขียนเรื่อง วิธีแผ่เมตตาให้คนรักดูค่ะ:)

++

ถาม. แผ่เมตตาให้คนที่เรารักทำอย่างไรค่ะ(หมายถึงการคิดและพูดตอนแผ่ นะค่ะ) แล้วทำได้ทุกเวลาหรือป่าวค่ะ ต้องทำสมาธิก่อนหรือไม่ค่ะ

ตอบ. การแผ่เมตตานี่ รากมันจริงๆคือ มาจากใจก่อนนะคะ คำพูด และการกระทำ มันเป็นอุปกรณ์ส่ง ถ้าใจเราเป็นเมตตาแล้ว พูด ทำอะไรมันก็เป็นเมตตา

ท่าน ว.วชิรเมธี เคยบอกไว้ว่า "ก่อนจะแผ่ความสุขให้คนอื่น เราต้องมีความสุขก่อน" เหมือนจะให้เงินคนอื่น ถ้าไม่มีเงิน เราก็ให้ไม่ได้

ตอนทุกข์ ตอนโกรธอยู่ เราแผ่เมตตาได้ยากมาก ต้องฝึกมาดี ฝึกมาเรื่อยๆ คือทำเป็นนิสัย จึงจะแผ่เมตตา แผ่ความสุขเป็น 

วิธีการฝึกคือ ยกตัวอย่าง เวลามีความสุขให้นึกถึงผู้อื่น อยากให้ผู้อื่นมีความสุขด้วย (แต่ถ้าคนอื่นเค้าไม่มีสุขไปด้วย เพราะมีความสุขในคนละแบบกันก็ไม่ต้องไปบังคับเขานะ อันนั้นเกิน ) สังเกตใจดู เวลามีคนยิ้มให้เรา ถ้าเค้ายิ้มออกมาจากใจที่มีความสุขจริงๆ เราจะรู้สึกได้นะ เราจะมีความสุขตามไปด้วยอัตโนมัติ(อาจจะเผลอยิ้มออกมาเองเลย) แทบไม่ต้องพูดออกมาเป็นภาษาเลย ตอนเรามีความสุขจากใจ แค่ยิ้มให้คนอื่น คนอื่นก็ได้รับแล้ว แต่ไม่ต้องทำพร่ำเพรื่อนะคะ แค่มีเจตนาให้เป็นเบื้องต้น แล้วดูสถานการณ์ว่าควรไม่ควรก็พอ

หรือการให้ความสุขง่ายๆก็เรื่องของการ “ทำทาน” แค่เราเห็นขนมอันนี้อร่อย ก็อยากซื้อมาฝากคนอื่น เห็นอะไรดีก็อยากแบ่งปันคนอื่น 
ที่จะมีกำลังขึ้นไปอีกก็คือ การทำบุญ ทำสังฆทาน หรือทำบุญที่เรารู้ว่าเป็นบุญใหญ่ ผู้รับจะได้ประโยชน์มาก ได้ประโยชน์วงกว้าง เช่น ให้ธรรมทานให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ เราทำบุญแล้ว กรวดน้ำอุทิศบุญ อยากให้คนอื่นได้บุญ ได้สุขตามไปด้วย อันนี้ก็เรียกว่าแผ่เมตตาได้เหมือนกัน

หรือเห็นหมาแมวข้างถนน ดูหิวโซ แล้วเราอยากให้มันได้อิ่ม ซื้อหมูปิ้งให้มันกิน อันนี้เรียกกรุณา กรุณาคือปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ พ้นทุกข์แล้วเป็นสุข อันนี้ก็เป็นแผ่เมตตาอีก

ทั้งหมดนี้เป็นการยกตัวอย่าง ถ้าใจเข้าใจแล้วว่าความสุขเป็นอย่างไร ก็แผ่เมตตาให้คนรักไม่ยากค่ะ:) พูดเพราะๆ พูดให้กำลังใจ พูดให้หายเหนื่อย และอื่นๆ


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.