อุบายภาวนาก่อนนอนที่ง่ายแต่ได้ผล

sleepโดย คุณดังตฤณ

ช่วงเวลานอนเป็นจังหวะว่างที่ทุกคนมีแน่ๆอยู่แล้ว เกือบร้อยทั้งร้อยจะทิ้งเปล่าโดยไม่ได้อะไรทั้งทางโลกทางธรรม ผมทดลองอุบายภาวนาอย่างหนึ่งที่ง่ายแต่ได้ผลเกินคาด เป็นการใช้เวลาที่สูญเปล่านี้ทำประโยชน์ให้มากที่สุด อยากนำมาแลกเปลี่ยนกัน

ถ้าทดลองแล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลอย่างไรช่วยเล่าด้วยก็ดีนะครับ

ระดับของสมถะ

สมถะคือสงบชั่วคราวจากกิเลสเพื่อให้จิตตั้งมั่นพร้อมเขยิบขึ้นสู่ภูมิวิปัสสนา โดยทั่วไปคือเอาใจไปจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนจิตนิ่งแนบอยู่กับสิ่งนั้น

สิ่งที่จิตเข้าไปจ่ออยู่เรียกว่าอารมณ์ ลักษณะที่จิตคิดถึงอารมณ์ หรือยกอารมณ์ขึ้นมานั้น เรียกว่าวิตก เมื่อจ่อไว้นานพอ อารมณ์ภาวนาจะตรึงจิตให้อยู่กับที่ ไม่สัดส่ายไปไหน

ลักษณะที่จิตปักหลักแนบอยู่กับอารมณ์นั้นเรียกว่าวิจาร อารมณ์แต่ละชนิดให้ผลแตกต่างกัน โดยเฉพาะเมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว เช่นถ้าอารมณ์เป็นลมหายใจ จิตนิ่งถูกส่วนแล้วจะสงบรู้อยู่กับกาย เหมือนถูกลมหายใจจูงเข้ามารู้ เข้ามาดูสำรวจกายทั่วพร้อม หากอารมณ์เป็นแสงสีหรือรูปทรงใดๆ จิตนิ่งถูกส่วนแล้วจะสงบรู้อยู่กับนิมิต

เหมือนถูกนิมิตจูงไปหาความงามล้ำลึกภายนอก นี่จึงเป็นเหตุให้พระพุทธองค์ตีวงกรรมฐานเข้ามาอยู่ในขอบเขตของกายใจ เพราะเมื่อนิ่งรู้กายใจแล้ว ก็จะได้พิจารณากายใจนั้นโดยนัยของความเป็นขันธ์ ๕ ต่อไป

เท่าที่ฟังมา หากกำหนดลมหายใจขณะนอนราบ หลายคนจะอึดอัด ทั้งที่ขณะนั่งทำความรู้ลมเข้าออกก็สงบสบายดี อันนี้คงขึ้นอยู่กับสรีระ วิธีกำหนด และปัจจัยประกอบอื่นๆ เลยคิดว่าน่าหาอารมณ์ให้จิตไปตั้งไว้ตรงจุดดีที่สุด คือจุดที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นที่ตั้งของจิตเอง

ให้นอนราบ หลับตาทำจิตอยู่กับความสบาย สำรวจดูทั่วกายให้เห็นว่าไม่มีส่วนใดกำเกร็ง แล้วยกมือวางทาบอก ปลายนิ้วกลาง (ซึ่งเป็นนิ้วที่มีกำลังดีที่สุด) แตะอยู่กับกระดูกร่องอก เคาะนิ้วลงกับกระดูกร่องออกนั้น อย่าแรงจนเจ็บ อย่าเบาจนรู้สึกกระทบน้อย อย่าเร็วจนเป็นเร่ง อย่าช้าจนไม่รู้ตัว เคาะไปเรื่อยๆและจับความรู้สึกอยู่เฉพาะตรงกระทบ อย่าให้จิตสัดส่ายไปไหน เมื่อยมือก็เปลี่ยนเป็นอีกข้างหนึ่ง

หากเป็นผู้มีความสงบตั้งมั่นดีจากการภาวนาอยู่แล้ว จะเหมือนจิตเข้าสู่สภาพรู้ ไร้หน้าตาของตนเองได้เร็ว แต่หากยังภาวนาไม่แข็งนัก อาจต้องเคาะนานหน่อย แต่ไม่น่าจะเกินสองสามนาทีควรเห็นผลบ้าง

ถ้าเกิดความปักหลักนิ่งเข้ามาที่กลางอกถูกต้อง สิ่งที่ตามมาจะเป็นความรู้สึกว่าง และสงบกว้างขวางขึ้นในภายใน ให้รู้เคาะด้วย ทรงความว่างในภายในนั้นไว้ด้วย หากรู้สึกว่าแรงเคาะอ่อนลงจนหายไป หรือนิ้วหยุดไปเองโดยไม่ตั้งใจ แล้วจิตรวมนิ่งอยู่ตรงกลางๆ มีความตื่นรู้อยู่ ก็ไม่ต้องเคาะต่อ

แต่หากจิตรวมนิ่งแบบเคลิ้ม ก็ตัดสินใจเองว่าอยากหลับไปทั้งอย่างนั้น (อาจเพลียจากงาน) หรือว่าจะขยับเคาะต่อเพื่อเรียกความสงบนิ่งแบบตื่นรู้


ระดับของวิปัสสนา

ถ้ายังไม่นิ่ง ยังไม่รู้สึกสงบตั้งมั่นก็ขอให้เคาะไปเรื่อยๆ จนเมื่อนิ่งแล้ว โดยเฉพาะเกิดความรู้สึกว่างในภายในยิ่งดี ให้จ่ออยู่กับความนิ่งว่างนั้น ดูไปเรื่อยๆว่ามันนิ่งจริงไหม ว่างจริงไหม หรือว่ามีความรู้สึกหรือนึกคิด หรือภาพ/เสียงในหัวผุดขึ้นหรือเปล่า

หากเห็นสิ่งใดแปลกปลอมเข้ามาในความนิ่งว่าง ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน นอกจากรู้ให้ทันว่าเกิดขึ้น และเท่าทันว่าดับไป เห็นโดยความเป็นของอื่นจากฐานสตินั้น

สังเกตว่ามีกระแสความผูกยึดเกิดขึ้นหรือไม่ หากสังเกตออกว่ามี ก็ทำใจกลับมาหาความสงบใหม่ แล้วรู้ให้ทันใหม่ ว่ามีบางสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในความนิ่งว่าง เกิดขึ้นแล้วดับไปโดยเราไม่เป็นผู้บันดาล ไม่เป็นผู้กำหนด

เห็นอยู่แล้วๆเล่าๆจนกว่าจะรู้สึกเหมือนจิตเขาตั้งมั่นรู้เกิดดับของเขาเอง สายใยความผูกยึดว่าสิ่งเกิดดับเป็นตัวของจิต หรือเนื่องด้วยอัตตาของจิตหายไป จะเหมือนมีความว่างอย่างหนึ่งเป็นผู้ดูธรรมชาติเกิดดับ ล้วนแล้วแต่เป็นของแปลกปลอม

******** 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีหัดภาวนาง่ายๆเช่น หนังสือวิปัสสนานุบาล หรือลิ้งค์สอนอานาปานสติ ได้ที่ www.dungtrin.com


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.