วิธีแก้ความคิดมาก ฟุ้งซ่าน
เก็บตกจาก @จิตจักรพรรดิ ค่ะ
ถาม: ตอนนี้หนูรู้สึกว่าจิตใจตัวเองไม่สงบเลยพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ตลอด พอดีหนูเป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะชอบเอาอารมณ์ตัวเองเป็นใหญ่เคยตัดสินใจปัญหาผิดพลาดมาหลายครั้งแล้วก็เพราะอารมณ์แล้วตอนนี้หนูก็มีปัญหากับที่โรงงานหนูจะหาทางออกอย่างงัยดีค่ะที่จะทำให้เราไม่คิดอะไรพุ้งซ่านไปมากพอดีหนุเป็นคนคิดมากด้วยค่ะชอบคิดอะไรล่วงหน้าคิดแทนคนอื่นค่ะ
คุณดังตฤณตอบ: ช่วงแรกก็ต้องอาศัยที่พึ่งภายนอกกันหนักหน่อยครับ อ่านหนังสือธรรมะ ฟังซีดี ถ้าถูกโฉลกกับเล่มไหนหรือแผ่นไหนก็อ่านซ้ำ ฟังซ้ำ จะรู้สึกว่าได้อะไรใหม่ และที่สำคัญคือได้ราวเกาะที่มั่นคง ถนัดมือ ความฟุ้งซ่านเล่นงานเราไม่ได้ถนัด และทุกครั้งเราจะมีกำลังใจที่จะควบคุมตัวเอง รู้สึกว่าอารมณ์อยู่มือได้ง่ายขึ้น
ช่วงต่อมาต้องอาศัยสติของตัวเอง บอกตัวเองว่าถึงแม้ไม่มีราวเกาะ ทั้งหนังสือหรือซีดี ก็ต้อง "มีแก่ใจ" จะเป็นที่พึ่งให้ตัวเอง ทำเรื่องดีเล็กๆน้อยๆให้เป็น ทุกครั้งที่ทำดีแม้เล็กน้อยได้สำเร็จ ความฟุ้งซ่านจะลดระดับลง อารมณ์แปรปรวนจะคลี่คลายหายไป
ช่วงต่อมาเราต้องมีปัญญามากขึ้น เห็นตามจริงว่าแต่ละคนมีกรรมของตัวเอง คิดอยู่ในหัวตัวเอง พูดออกมาจากปากตัวเอง ไม่มีใครคิดแทนใคร พูดแทนใครได้จริงตลอด ๒๔ ชั่วโมง เมื่อมีอุเบกขา เห็นว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมของตนชัดขึ้น เราก็จะเลิกคิดแทนคนอื่นไปเองครับ
และเพื่อจะอยู่กับปัจจุบันได้ ให้อาศัยลมหายใจเข้าออกเป็นที่ตั้งจะดีที่สุด แนะนำให้อ่านวิปัสสนานุบาลนะ http://dungtrin.com/
แรกๆที่ฝึกสติก็จะอย่างนี้กันทุกคนแหละ เหมือนมีสองคนเถียง สองคนขัดแย้งกันในตัวเอง เราก็เห็นไปว่าไม่มีตัวไหนที่เราบังคับได้สักตัว มันเถียงกันเราก็ห้ามไม่ได้สักที จนกระทั่งรู้จักดูว่าอาการอะไรปูดขึ้นมา บังคับไม่ได้ อาการอะไรขัดแย้งขึ้นมา เราก็ได้แต่รู้มัน ในที่สุดทุกตัวตนจะหายไป ไม่ว่าข้างไหน เหลือแต่ภาวะไร้ความขัดแย้ง สบายใจที่ไม่ใช่เราสักตัว
ขอถามพี่ตุลย์ดังนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ
-
- ถาม 1.ถ้ายังต้องเกิดอยู่ทำอย่างไรให้ชาติหน้าเป็นคนที่มีความจำดีคะ 2. ต้องทำเหตุอย่างไรถึงจะบรรลุเร็ว อย่างพระพาหิยะ แต่ท่านเป็นเอกเรื่องบรรลุเร็ว อาจจะไม่ต้องถึงขนาดพระพาหิยะ แต่ว่าก็ไม่ลำบากหลงทางปฏิบัติไม่ถูกค่ะ
ตอบ
๑) ถ้าจะจำดีมาแต่แรกโดยไม่ต้องฝึกมาก คือต้องเป็นผู้รักษาศีลได้สะอาด เพื่อตัดโมหะหรือเมฆหมอกเคลือบคลุมจิตออกไป (คนเราจะจำเลอะเลือนถ้าโมหะมาก) แล้วก็ต้องเป็นคนที่จำแม่นว่าตั้งใจอะไรดีๆไว้ และรักษาให้ได้ไม่ลืม (ความจำของคนจะอ่อน ถ้าเป็นพวกจิตอ่อน โลเลง่าย)
๒) ท่านพาหิยะเคยเป็นพระ ปฏิบัติแบบทุ่มกายถวายชีวิต เคยได้วิปัสสนาญาณมามาก และปรารถนาความพ้นเร็วไว้ก่อน เหตุปัจจัยแยะครับ ไม่ใช่มีอุบายลัดๆแล้วจะได้บรรลุลัดๆเร็วๆได้เหมือนท่าน