พระคาถาเมตตาหลวง

pray2แผ่เมตตาให้ตนเอง

เมตตายะ ภิกขะเว เจโต วิมุตติยา
อะหังสุขิโต โหมิ 
ขอให้ข้าพเจ้า จงถึงความสุข
นิททุกโข โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า พ้นทุกข์
อะเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าได้มีเวรภัย
อัพยาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าได้มีใครรังแก เบียดเบียนข่มเหง
อนีฆา โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่ามีความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ข้าจะรักษาตนให้มีความสุข

แผ่เมตตา
สัพเพ สัตตา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ปาณา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ภูตา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ปุคคะลา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ อัตตะภาวะปริยาปันนา 
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพพา อิตถิโย
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ปุริสา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ อะริยา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ อะนะริยา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ เทวา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ มะนุสสา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ วินิปาติกา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

แผ่กรุณา
สัพเพ สัตตา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ปาณา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ภูตา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ปุคคะลา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพอัตตะภาวะปริยาปันนา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพพา อิตถิโย
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ปุริสา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ อะริยา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ อะนะริยา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ เทวา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ มะนุสสา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ วินิปาติกา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ

แผ่มุทิตา
สัพเพ สัตตา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ปาณา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ภูตา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ปุคคะลา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพอัตตะภาวะปริยาปันนา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพพา อิตถิโย
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ปุริสา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ อะริยา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ อะนะริยา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ เทวา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ มะนุสสา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ วินิปาติกา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ

แผ่อุเบกขา
สัพเพ สัตตา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ปาณา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ภูตา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ปุคคะลา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพอัตตะภาวะปริยาปันนา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพพา อิตถิโย
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ปุริสา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ อะริยา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ อะนะริยา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ เทวา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ มะนุสสา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ วินิปาติกา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ

คำแปล
(ช่วงแรกแนะนำให้สวดคำแปลด้วยไปก่อน เพื่อให้เข้าใจความหมายของบทสวด แต่เมื่อจำได้แล้ว จะสวดแต่คำบาลีก็ได้ค่ะ)

สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
สัตว์มีลมปราณทั้งปวง
ภูตผีทั้งปวง
บุคคลทั้งปวง
สัตว์ในร่างกายเราทั้งปวง
สัตว์เพศหญิงทั้งปวง
สัตว์เพศชายทั้งปวง
สัตว์เจริญทั้งปวง
สัตว์ไม่เจริญทั้งปวง
เทวดาทั้งปวง
สัตว์มีใจสูงทั้งปวง
สัตว์นรกทั้งปวง

แผ่เมตตา
อย่าจองเวรกัน
อย่าผูกพยาบาทอาฆาตกัน
อย่าเบียดเบียนกัน
อย่าข่มเหงรังแกกัน
อย่ามีความทุกข์กายทุกข์ใจ
จงรักษาตนให้เป็นสุขเป็นสุขเถิด

แผ่กรุณา
จงพ้นจากความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และความทุกข์ทั้งปวง

แผ่มุทิตา
อย่าวับัติคลาดเคลื่อนจากสมบัติ จากยศ จากความสรรเสริญ และจากความสุขที่ได้แล้ว

แผ่อุเบกขา
มีกรรมเป็นของๆตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทำกรรมสิ่งใดไว้ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักได้รับผลของกรรมนั้น

+++++++++++++++++

ที่มา
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านมักจะให้ภาวนาเป็นการเมตตาไปยังสรรพสัตว์ไม่มีประมาณ ต่อมาหลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกองเพล อุดรธานี ได้รับถ่ายทอดไว้ และได้มอบให้แก่ หลวงพ่อเมตตาหลวง หรือพระญาณสิทธาจารย์ (สิงห์ สุนทรโร) วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ปากช่อง นครราชสีมา
อานิสงค์

พระคาถาเมตตาหลวงเป็นการเจริญกรรมฐานชนิดที่มีอานิสงค์ทำให้จิตตั้งมั่นได้ถึงระดับอัปปนาสมาธิคือ เมตตา กรุณา และมุทิตา จิตตั้งมั่นได้ระดับญาณสาม ส่วนอุเบกขานั้นทำให้จิตตั้งมั่นถึงระดับญาณสี่

พระพุทธองค์ได้ตรัสอานิสงค์ของการเจริญเมตตาพรหมวิหารไว้ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติอันบุคคลเสพแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้ได้ดุจญาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้ตั้งมั่นโดยลำดับ สั่งสมแล้ว ปรารถนาดีแล้ว พึงหวังผล ๑๑ ประการคือ

๑ ย่อมหลับเป็นสุข
๒ ย่อมตื่นเป็นสุข
๓ ย่อมไม่ฝันลามก
๔ ย่อมเป็นที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย
๕ ย่อมเป็นที่รักแห่งอมนุษย์ทั้งหลาย
๖ เทวดาย่อมรักษา
๗ ไฟ  ยาพิษ หรือศัสตรา ย่อมไม่กล้ำกรายได้
๘ จิตย่อมตั้งมั่นโดยเร็ว
๙ สีหน้าผ่องใส
๑๐ สติสัมปชัญญะสมบูรณ์
๑๑ แม้ยังไม่บรรลุธรรม ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.