มีแฟนเพื่ออะไร
แต่ละคนมีจุดประสงค์ในการอยากมีแฟนต่างกัน บางคนก็อยากมีเพราะเหงา อยากมีเพื่อนไปดูหนัง ฟังเพลง เที่ยว ทำบุญ บางคนอยากมีแฟนเพื่อให้ชีวิตดูสมบูรณ์ อยากมีคนดูแลยามแก่ แต่ไม่ว่าอย่างไร คนเราจะมีแฟนแบบไหนก็ขั้นอยู่กับกรรม
จุดประสงค์ในการมีแฟนมันบอกได้ว่า เรากำลังพาตัวเองไปในเส้นทางไหน
เช่น ถ้าอยากมีแฟนเพื่อแก้เหงา เราจะกลายเป็นคนขี้เหงาไปเรื่อย ๆ อยู่ดี และมีสุขไปวัน ๆ
ตามที่เคยเขียนบทความไปก่อนหน้า ว่าคนเราที่อยากมี อยากเป็นอะไร ก็เพราะอยากมีความสุข หญิงจึงแนะนำไปแต่แรกว่า จุดประสงค์ให้รัก หรือมีสิ่งต่าง ๆ ใช้สิ่งต่าง ๆ เพื่อความก้าวหน้าไปสู่ความสุข ความพ้นทุกข์ ก็คือตั้งเป้าไว้ว่า จะมีแฟนก็ขอให้มีเพื่อความเติบโต ไม่ได้เพื่ออย่างอื่น เช่น เพื่อมีภาระ หรือ เพื่อเป็นภาระ (เพราะเรายังไม่รู้จักรักตนเอง และผู้อื่น)
ถ้ามีเป้าหมายว่ามีแฟนเพื่อความเจริญเติบโต แม้วันหนึ่งคนรักจะเปลี่ยนแปลง หรือต้องจากไป แทนที่เราจะยึดติดตัวตนที่ไร้แก่นสาร เราก็เอามาเรียนรู้ได้ว่าต่อไปจะรักอย่างไรไม่ให้ใจเป็นทุกข์ หรือเราเหมาะและไม่เหมาะกับคนแบบไหน มันคือการพัฒนาตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับการรู้จักรัก และปัญญาที่จะเห็นว่าใครคือคนที่ใช่ ในโอกาสต่อไป
เปรียบชีวิตเราเหมือนการเดินทาง แต่ละคนเป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว เข้ามาพบปะนักเดินทางคนอื่น ๆ ที่มาจากคนละทิศ และมาเจอกันที่ถนนสายหนึ่ง และสุดท้ายทุกคนจะแยกย้ายไปตามทางที่จะไปสู่จุดหมายของตัวเอง ถ้าเราเลือกคนเป็นเป้าหมายก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะไปทางไหน และเขาจะยอมให้เราเดินไปด้วยหรือเปล่า แต่ถ้าเรามีจุดหมาย แล้วจุดหมายคือการเรียนรู้เพื่อไปสู่ความสุขที่เป็นเหตุแห่งทุกข์อีก เราก็เดินทางของเราต่อไป
คนรักเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งในการเดินทาง เป็นแค่เพื่อนร่วมทาง ไม่ใช่เส้นทาง ไม่ใช่ทั้งหมดของการเดินทาง
คนรักยังเป็นอีกคนหนึ่งที่ต่างหากจากเรา
ถ้าคู่ไม่ได้มีเป้าหมายอย่างเดียวกัน ไม่ได้ชอบเดินทางแบบเดียวกัน คนหนึ่งชอบเดินป่า อีกคนชอบเดินเมือง คนหนึ่งชอบเดินกลางวัน อีกคนชอบเดินกลางคืน เดินเร็วช้าต่างกัน องค์ประกอบต่าง ๆ กันเหล่านี้ก็ทำให้ต้องแยกจากกันในที่สุด
คนที่หวังความก้าวหน้า เป็นธรรมดาที่ต้องมีการเติบโต ไม่ใช่การมีสุขไปวัน ๆ แน่ ดังนั้นความเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องมีในตัวเรา และในคู่ของเรา "ในคนทั้งคู่" จึงจะเกิดความสมดุลและเดินร่วมกันไปได้จนถึงจุดหมาย
ความเหมาะสมนี่มันเหมาะเหมือน เราตัวสูง และมี eye vision อยู่ในระดับเดียวกัน เพราะถ้า vision ต่าง เห็นไม่เหมือนกัน ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง นานไปก็จะเกิดความไม่เคารพในกันและกัน
คนนึงตัวสูง คนนึงตัวเตี้ย คนสูงต้องย่อนาน ๆ ก็เมื่อย คนเตี้ยต่อเขย่งนาน ๆ ก็เมื่อย
แต่ถ้าสมกันแล้ว ความเป็นตัวเค้าก็จะส่งเสริมเราให้ก้าวหน้า ความเป็นตัวเราก็จะส่งเสริมเขาให้ก้าวหน้า แล้วก็จะทำให้เกิดความยินดี เคารพ พอใจในกันและกัน
ดังนั้นหากจะมีคนรัก ก็ขอให้ตั้งใจขอให้เป็นคนที่จะเติบโตทางจิตวิญญาณร่วมกัน ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อเป็นการกำหนดทิศทางเดินที่ชัดเจนให้ตัวเอง