๗. ทุกข์เพราะตัวเอง

อยากตาย(เพราะรักตัวเองไม่เป็น)

ปัญหาความรักเป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ปัญหาหนึ่งที่ทำให้คนคิดอยากฆ่าตัวตาย บางคนอ้างว่าบูชารัก บางคนอ้างว่าไม่มีเขาแล้วอยู่ไม่ได้ และอื่นๆ ซึ่งในความเป็นจริงส่วนใหญ่คนเหล่านั้นมีความเข้าใจผิดสองอย่างคือ อย่างแรกเข้าใจผิดว่า เรารักเขา อย่างที่สอง เข้าใจผิดว่าเราไม่รักตัวเอง เพราะความจริงแล้วคนที่อยากฆ่าตัวตายส่วนใหญ่ทุกข์เพราะรักตัวเอง แต่ไม่รู้ตัว เรียกว่าเป็นคนโง่ที่รักตัวเองแต่ไม่รู้ หรือรักตัวเองไม่เป็นจะถูกกว่า

คนที่รักตัวเองไม่เป็นจะมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองทั้งในสายตาของผู้อื่นและแม้กระทั่งในสายตาของตนเอง จึงมีพฤติกรรมสองอย่าง อย่างแรกคือ พยายามหาข้อพิสูจน์ว่าเรายังมีตัวตน มีคุณค่าด้วยการคิดว่า ถ้าไม่มีเราแล้ว คนที่เรา(คิดว่าเรา)รักคงจะเสียใจ หรือรู้สึก คิดถึง คิดเดาเอาไปเองว่าเขาจะมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเช่น ตอนเรามีชีวิตอยู่ไม่ดูดำดูดีเรา เราหายไปคงจะหวนคิดถึงความผิดที่ไม่แยแสเราบ้าง จึงพยายามพิสูจน์ด้วยการเอาตัวเองเป็นเหยื่อ บางคนไม่มีใจเหี้ยมเกรียมแบบจะทำปาณาติบาตตัวเองได้จริง แต่บ่อยครั้งมักเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันเพื่อให้คนอื่นทำตามอย่างที่ใจหวัง แค่นี้คงพอทำให้เข้าใจได้มากขึ้นแล้วว่า เรารักเขาหรือเรารักตัวเอง

อย่างที่สองคือ ไม่ได้ต้องการให้ใครมาทุกข์ แต่เพราะไม่รู้ว่าจะรักตัวเองอย่างไรจึงคิดว่าตนไม่มีประโยชน์อันใดกับโลกอีก ลองวิเคราะห์กันให้ดีๆ ที่เราคิดว่าตนเองไม่มีคุณค่า เป็นเพราะเรายังไม่รู้จักสร้างคุณค่าให้ตัวเองก่อนหรือเปล่า? เพราะคนที่คิดอยากฆ่าตัวตายบ่อยๆ หรือเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันบ่อยๆ ส่วนมากเป็นคนไม่รู้จักให้รู้จักแต่จะเอาเป็นหลัก ส่วนมากคนที่คิดแต่จะเอาจากคนอื่นมากกว่า ที่มักมีความเสี่ยงและมีแนวโน้มอยากฆ่าตัวตายเมื่อไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ

คนที่คิดฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มักจะเป็นคนเอาแต่ใจ หรือเป็นคนจิตใจอ่อนแอหรือขี้น้อยใจหรือต้องการที่พึ่งทางใจอยู่เสมอ ไม่สามารถพึ่งพาตนเอง หรือคิดแต่จะพึ่งพาผู้อื่น (หรือเป็นทุกอย่างตามที่กล่าวมานี้) การกระทำดังกล่าวสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมที่สร้างเงื่อนไขกับคนอื่น(เช่น กับเพื่อน กับแฟน กับลูก กับหลาน กับพ่อ กับแม่ และอื่น) เพื่อให้ตนเองได้รับความรู้สึกอย่างหนึ่ง เช่น เราสามารถบังคับเขาได้ แปลว่าเราเป็นผู้เข้มแข็ง เราชนะ เรามีความสำคัญ หรือบงการให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นได้ เราจึงจะมีความสุข เบื้องหลังเป็นความรักตัวเองทั้งสิ้น แล้วอย่างนี้ คนที่เรา(บอกว่า)รักมีความสุข หรือเรามีความสุข? ที่อ้างว่าทำเพื่อให้อีกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น หรือให้เขาทำอย่างนั้นแล้วเขาจะมีความสุข แต่ไม่ฟังเสียงเขา มันเป็นเราที่ลืมมองว่าใครเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์หรือความสุขที่แท้จริง เพราะเอาแต่ตนเป็นที่ตั้งหรือเปล่า?

เป็นความเข้าใจผิดที่ว่ายิ่งยึดใครมากเท่าไหร่ แปลว่าเรารักเขามากเท่านั้น เพราะความรักที่แท้จริงไม่ใช่การจะเอา แต่เป็นการจะให้ คือตั้งจิตปรารถนาดีขอให้ผู้อื่นมีความสุข(เมตตา) ความสงสารคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์(กรุณา)ความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี(มุทิตา) ทำไปด้วยใจเป็นกลางไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งขว้าง(อุเบกขา) ตามอย่างพรหมวิหารธรรม

การเรียกร้อง หรือการสะสมความอ่อนแอของจิตใจ และโหยหาต้องการจะเอาจากโลกภายนอก โดยต้องพึ่งพาคนอื่นอยู่เสมอไม่ใช่ทางออกที่สวยหรูแน่ ลองดูเข้ามาที่ตัวเอง เราเปลี่ยนนิสัยด้านไม่ดีของตัวเองได้ยากแค่ไหน จะประสาอะไรกับการพยายามบังคับให้คนอื่นเปลี่ยนแปลง หรือพยายามเปลี่ยนโลกทั้งโลกให้เป็นอย่างใจเรา เราอาจได้อะไรมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่นานวันถ้าเราไม่รู้จักให้ก็จะถึงจุดสิ้นสุด หรือเวลาที่กรรมจะเอาคืน เพราะในที่สุดคนอื่นก็จะเหนื่อยล้า เมื่อถึงขีดสุดเราคงจะต้องฆ่าตัวเองตายจริงเพื่อไปพบว่า ตายไปก็ไม่มีใครมาตามใจเราได้ตลอดกาลอยู่ดี

ในแง่ของกรรม การเอาแต่ใจ และใช้วิธีการต่างบีบบังคับเพื่อให้คนอื่นมาทำอย่างใจเรา ไม่ใช่ทางออกที่จะทำให้เรามีความรักที่แสนดีเพราะพฤติกรรมและความรู้สึกทางใจดังกล่าวจะทำให้เราเคยชินที่จะยึด ต้องมีที่เกาะ หรือยึดเหนี่ยว ใครไม่ทำอย่างที่เราต้องการ ต้องได้รับโทษเป็นคำตัดพ้อ ความทุกข์ใจ ความอึดอัด ความเศร้าโศก เพื่อให้เขารู้สึกผิด นานวันเข้า เมื่อสะสมไปจนถึงจุด คือเมื่อถึงเวลาของกรรมส่งผล โดยมากมักจะในชาตินี้ หรืออย่างช้าก็ชาติหน้า ผลที่ส่งมาในแง่ความรู้สึกก็จะเป็นความรู้สึกอึดอัด ทุกข์ทรมาน อาจจะไม่มีใครยอมให้เราอีกต่อไปเป็นเราที่ต้องไปคอยรับ  (ใช้ผลกรรม) และเป็นฝ่ายให้ และจิตจะเชื่อเองโดยอัตโนมัติว่า ถ้าไม่มีคนมาทำเพื่อเรา หรือมาบอกว่าเราดี แปลว่าเขาไม่รักเรา ความรู้สึกอันนี้เองที่จะเป็นตัวคิดซ้ำทำร้ายจิตใจเราอยู่ตลอดเวลาว่าไม่มีใครรักเราแปลว่าเราไม่ดี เราไม่มีคุณค่า และจะลงเอยด้วยการเกลียดตัวเอง ท้อแท้หมดหวังในชีวิตง่าย 

ทางออกของการรักตัวเองให้เป็น จึงไม่ได้อยู่ที่การหาคนมาตามใจเรา แต่อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงตนเอง อยู่ที่การรู้จักรัก รู้จักให้คนอื่นโดยไม่ยึดว่าต้องได้ผลตอบแทน เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าให้กับใจเราเอง ถ้าลองได้ร่วมกิจกรรม หรือให้กับผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้เห็นว่ายังมีคนที่เขาต้องทุกข์ทรมานขัดสน ทั้งกายทั้งใจมากกว่าเราอีกมากก็จะพบว่าเราสามารถมีคุณค่าได้ด้วยการเพิ่มคุณค่าชีวิตให้กับคนอื่น และเมื่อให้ความสุขแก่ผู้อื่น เราเองก็จะได้ความสุขนั้นด้วยโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าให้สิ่งใดก็ย่อมได้สิ่งนั้นแน่นอน


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.