๘. ทุกข์ (มีวัน) สิ้นสุด

เพราะทุกข์จึงเติบโต

เวลาที่มีความทุกข์ คนบางคนเลือกที่จะจมอยู่กับมัน ไม่ยอม ลุกขึ้นยืน หลวงพ่อชาเคยสอนว่าวันเวลาล่วงไป เราทำอะไรอยู่คือ ปล่อยให้จิตหลงไปกับความคิด หลงไปยึดกับเขาซึ่งก็คือการหลงไปกับสังขารขันธ์(ความคิด) ที่ปรุงแต่งไปต่างนานา เกี่ยวกับเขาพระศาสดาไม่ได้สอนให้หลีกหนีสิ่งกระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่สอนให้เฝ้ารู้สิ่งต่างที่เกิดขึ้นตามจริงอยู่เสมอเพื่อให้รู้ทัน คือไม่หลงไปกับทุกข์ แต่จะเห็นทุกข์เป็นเป้าหมายที่จะศึกษา ศึกษา สภาวะที่รู้สึกเป็นทุกข์ ที่กำลังปรากฎอยู่ตรงหน้าต่อตาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไป เพราะไม่มีโอกาสใดจะดียิ่งไปกว่าโอกาสนี้อีก ที่จะศึกษา ให้กระจ่างแจ้งว่าทุกข์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร และดับลงไปได้อย่างไร จนรู้ทัน และรู้อย่างแจ่มแจ้งถึงเหตุแห่งทุกข์ เพื่อจะดับทุกข์ได้อย่าง สิ้นเชิง ไม่ต้องหนีไปเรื่อย

เหมือนคนที่ไม่เคยโดนไฟดูด อธิบายอย่างไรก็ไม่กลัวไฟดูด จนกว่าจะโดนไฟดูดจริงๆ จึงจะเข้าใจว่าไฟดูดนั้นเป็นทุกข์อย่างไร และไฟดูดนั้นมีประโยชน์คือ ทำให้รู้ว่าควรระมัดระวัง ควรใส่ใจว่าทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกไฟดูดอีก ความทุกข์ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะทุกข์ จากความรัก ทุกข์จากความเหงา ทุกข์จากการถูกเกลียด ทุกข์จากการ สูญเสียของรัก ทุกข์จากการไม่ได้ตามที่ต้องการ ในทางหนี่งนั้น ความทุกข์ทั้งหลายไม่ใช่สิ่งพึงใจ แต่ในอีกทางหนึ่งก็สามารถเป็นประโยชน์ ทำให้เราได้เรียนรู้ คือจะได้พิจารณาทุกข์เหล่านี้ให้ถ่องแท้ จนได้รู้จักทุกข์อย่างแจ่มแจ้งว่าทุกข์เกิดจากอะไร เมื่อได้เห็นเหตุแห่งทุกข์ดีมากพอ ก็จะสามารถรักษาใจให้อยู่ในสภาพที่ปราศจากทุกข์มากล้ำกลายได้อย่างถาวร จึงจะเรียกได้ว่า ได้ประโยชน์จากความทุกข์อย่างถึงที่สุด 

ถ้าลองไตร่ตรองให้ดีจากทุกหัวข้อที่อ่านผ่านตามา หรือที่เราๆ เคยประสบกันเองก็จะรู้ว่า ปัญหาความทุกข์ทั้งหมด ทุกเรื่องนั้นเกิดขึ้นในใจเรา เพราะตัวเราเองทั้งสิ้น แต่เราไม่เคยกล้ายอมรับ ความจริง กลับพยายามวิ่งหนี ออกไปหาคำตอบจากสิ่งภายนอก พยายามไขว่คว้าหาความสุขจากคนอื่นและสิ่งอื่น ซึ่งไม่เคยประสบ ความสำเร็จในการทำให้เราพ้นทุกข์ หรือมีความสุขถาวรอย่างที่ใจต้องการได้จริง ถ้าเรามองเข้ามาหาสาเหตุภายในจะเห็นว่าเราสามารถแก้ไข หยุดทุกข์ได้ ถ้าเราไม่ยึดความทุกข์ไว้ ปล่อยให้กรรมทำหน้าที่ของมันโดยไม่แทรกแซง ซ้ำเติม  ทำเพิ่ม คิดย้ำในเรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่สร้างเหตุใหม่ที่ดี ความทุกข์ก็จะผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรจะเปลี่ยนเข้ามามองความทุกข์ที่อยู่ในใจ และหาสาเหตุอย่างถ่องแท้ ความรู้ที่สามารถใช้รักษาจิตให้พ้นจากทุกข์ได้อย่างถาวรนั้น ไม่สามารถอ่านหรือฟังได้ แต่อยู่ที่การลงมือทำ มีสติ เห็นจากการตามรู้เหตุการณ์จริง ไม่ใช่จากการคิด และการจะรู้ต้องเป็นการที่จิตได้เห็นจิตอย่างชัดเจน จนเกิดเป็นการเชื่อมโยงทุกข์เข้ากับเหตุแห่งทุกข์ได้

ยิ่งปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปด้วยการแสวงหาปัจจัยที่ดับทุกข์ได้ชั่วคราวมากเท่าไหร่ เวลาที่จะเหลือในการพิจารณาเหตุแท้ของทุกข์ก็จะลดลงไปเท่านั้น ดังนั้นทุกครั้งที่มีความทุกข์ แทนที่จะไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่คนอื่น เราจึงควรย้อนกลับมาดูว่า ใจเราได้เรียนรู้อะไร เพราะการเรียนรู้จะนำไปสู่การเจริญเติบโตและพัฒนาตัวเรา ใจเรา


 © Copyright 2011. เหตุเกิดจากความรัก.