ถาม.ถ้าอยากเปลี่ยนชีวิตก็ต้องเปลี่ยนกรรม
จะเปลี่ยนกรรมก็คือเปลี่ยนการกระทำ หรือนิสัยที่พาเราไปมีชีวิตที่เป็นทุกข์หรือแบบเดิมๆ
ถ้าไม่เปลี่ยนการกระทำ เปลี่ยนนิสัยก็เปลี่ยนชีวิตตัวเองไม่ได้
แล้วถ้าไม่ภาวนา จะเปลี่ยนนิสัยได้ไหมคะ ยังไงก็ต้องภาวนาใช่ไหมคะ

เวลาเราทำบุญร่วมกับคนที่เรารักเรามักจะขอว่าอะไรกันคะ?
คาดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะขอให้ได้ครองคู่กัน บางคนอาจจะมีส่วนต่อขยายเพิ่มด้วยคือ ทุกภพทุกชาติ
แต่ทราบไหมว่า คำอธิษฐานนี้อาจจะทำให้เราสุขหรือทุกข์มหันต์ได้

เคยสังเกตไหมคะว่าเราชอบเจอปัญหาเดิมๆ ถ้าเรื่องความรัก ชอบมีปัญหาเจอแฟนเจ้าชู้ ก็มักจะเจอปัญหาเดิมๆ กี่คนๆส่วนใหญ่ก็เจ้าชู้ หรือมีปัญหาที่ว่า แฟนไม่ค่อยมีเวลาให้ จะมีแฟนกี่คนก็มีปัญหากับแฟนเรื่องนี้
หลายคนที่เบื่อกับปัญหาเดิมๆซ้ำๆซากๆ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
จะบอกว่าที่เราแก้ปัญหาไม่ได้สักที ก็เพราะเราแก้ผิดที่ ส่วนใหญ่เราพยายามไปแก้ที่คนอื่น เพราะก็แน่นอนล่ะ เรามักจะคิดว่า ก็เค้าเจ้าชู้นี่ เค้าไม่มีเวลานี่ เค้าทำให้เราทุกข์นี่ เค้าเป็นคนผิด เค้าต้องเป็นคนเปลี่ยนสิ ถามว่า คิดแบบนี้แล้วเคยแก้ปัญหาทุกข์ตัวเองได้สักทีไหม?

ถ้าเราเข้าใจที่มาของเรื่องราวทั้งหลาย ว่าทำไม๊ทำไม มีคนบนโลกเป็นหลายล้านคน ทำไมเราต้องมาหลงรักคนๆนี้ คนแบบนี้ คนประเภทนี้(เอง) อยู่เรื่อย ก็จะเข้าใจว่าที่จริงแล้วเราควรแก้ปัญหาที่ไหน? แก้ที่ต้นเหตุให้ถูก จะได้ไม่ต้องมาแก้ปัญหา ซึ่งอันที่จริงคือการสร้างปัญหาเพิ่มที่ปลายเหตุ ไปเรื่อยๆ ให้ต้องทุกข์ไปเรื่อยๆ หลายคนต้องทะเลาะ อารมณ์เสีย วีน เสียสุขภาพจิต เสียทั้งเวลา เสียอนาคต(ที่ดี) และอื่นๆ ยิ่งทำก็ยิ่งเพิ่มทุกข์ทั้งเรา และทุกๆคน

อันนี้เขียนเผื่อคนที่เคยอ่านหนังสือเหตุเกิดจากความรักแล้ว (ใครยังไม่เคยอ่าน เข้าไปอ่านที่ลิ้งค์นี้ได้นะคะ http://www.sangtean.com/love/reading ) จะได้ไม่ต้องอธิบายซ้ำด้วยก็คือ ที่เราไปหลงรักใคร คนแบบไหน ก็เพราะกรรมเรากำหนด อยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเองจึงต้องเปลี่ยนที่กรรมเรา ไม่ใช่ไปเปลี่ยนที่กรรมคนอื่น ซึ่งใครเปลี่ยนไปในทางที่ดี คนนั้นก็จะเป็นคนได้รับผลดี ถ้าเรายังไม่เปลี่ยน ยังมีนิสัยเดิมๆ พี่ชายเคยสอนญไว้ว่า “ถ้าเรายังเจอคน และสภาพแวดล้อมเดิมๆ แปลว่าเรายังไม่พัฒนา ถ้าเราพัฒนา เราเปลี่ยนไปแล้ว คนและสภาพแวดล้อมเราจะเปลี่ยนไป” คีย์เวิร์ดคือตรงนี้ค่ะ

ขอยกตัวอย่างในการแก้ปัญหาสองทางที่ญพอจะเห็นและสรุปได้จากประสบการณ์ ที่ได้รับคำชี้แนะมา และที่เข้าใจมาคือ

อย่างเรื่องคนรักไม่มีเวลา เราแก้ปัญหาสองทางจากความเข้าใจเรื่องกรรมแล้วคือ
หนึ่ง เรามีพฤติกรรมตอบกับสถานการณ์นั้นๆอย่างไร
คนส่วนใหญ่แก้ด้วยวิธี แอบน้อยใจ -> แอบบ่น -> ตัดพ้อ -> อาละวาด = ? สิ่งที่เราเจออยู่ น่าจะตอบคำถามนี้กันเองได้
ลองเปลี่ยนวิธีใหม่ด้วยความรักนะคะ ความรักแปลว่า เราอยากให้อีกฝ่ายมีความสุข(จากใจจริง) แล้วลองดูว่าเริ่มต้นด้วยใจแบบนี้ พฤติกรรมที่พูด ทำ อะไรจะต่างไปบ้าง ทำแล้วเค้าจะอยากเข้าใกล้มากขึ้น หรืออย่างน้อยก็ไม่อยากห่างไปกว่าเดิมค่ะ
Adapt กับเรื่องปัญหาอื่นๆก็คือ ลองสำรวจพฤติกรรมเราว่าอะไรที่เราทำแล้วเกิดผลเสียกับตัวเราเองมากขึ้น มันก็คือผิดทางนะ ลองมองทางใหม่

สอง เราเข้าใจกรรมดีพอแล้วหรือยัง
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรกนะคะ ถ้าเราเข้าใจเรื่องกรรมดีพอแล้ว เราจะเปลี่ยนนิสัยตัวเอง จากข้อหนึ่งเรา action ต่างไปแล้ว แล้วเราเข้าใจเรื่องกรรม เราก็ไม่ไปทำอะไรไม่ดีตอบ แล้วก็ตั้งใจด้วยว่าจะไม่ทำให้ใครทุกข์แบบนี้

ทำได้แค่นี้ เปลี่ยนตัวเองแล้วก็จะเหมือนเปลี่ยนชีวิตใหม่ กรรมจะส่งผลให้เรามีความสุข พฤติกรรมของคนรอบข้างเราจะเปลี่ยนไปเอง โดยที่เราไม่ได้คาดหวัง หรือเปลี่ยนให้ได้พบสิ่งที่ดีๆยิ่งขึ้น เป็นการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตตนเอง

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในด้านการแนะนำวิธีเอาไปใช้นะคะ
มีข้อสงสัยอะไร ก็อ่านเพิ่มเติมจากหนังสือ เหตุเกิดจากความรัก หรือเวปของเราได้ค่ะ :)

ถาม. ทำไมทำบุญเรื่องความรักแล้วยังไม่สมหวังสักที เกิดจากประเด็นใดบ้าง เช่น การวางใจขณะทำต้องเป็นอย่างไร ต้องกรวดน้ำชดใช้กรรมด้วยไหม เปลี่ยนตนเองหรือยัง หรือว่าคู่บุญเราไม่มีในชาตินี้ เราตั้งเงื่อนไขไว้เลยไม่เปิดรับ (อันนี้เป็นเท่าที่พอนึกออกนะคะ) ช่วยขยายความตัวอย่างดังกล่าว และหากมีประเด็นเพิ่มเติมด้วยค่ะ