คู่ที่เติบโตไปพร้อม ๆ กัน
มีคนมากมายอยากมีคู่ที่เติบโตไป
แต่มีกี่คนที่เข้าใจว่า คนที่รักการเติบโต เขาไม่ทำตัวเป็นภาระ ให้อีกฝ่ายต้องห่วง
จะเติบโตไปด้วยกันได้ เกิดจากการสนับสนุนกัน ไม่ใช่ถ่วง พลัดกันเป็นเตี้ยอุ้มค่อม ค่อมอุ้มเตี้ย
ถ้าอยากมีคู่เพราะหวังพึ่งพาคนพ
คนที่พร้อมจะเติบโตคือคนที่รักที่จะส่งเสริมอีกฝ่ายและรักตัวเอ
รักตัวเองให้เป็น
เวลาคนอกหัก มักได้ยินประโยคให้กำลังใจจากคนรอบข้างว่า “ให้กลับมารักตัวเอง รักตัวเองให้เป็นนะ”
คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า เราทุกข์เพราะรักคนอื่น แต่หญิงก็ยังนั่งยันนอนยันอยู่ดีนะว่า เราไม่ได้ทุกข์เพราะรักคนอื่น
"ฝ่ายที่สุดโต่งจะมองได้แค่ซ้ายกับขวา"
ถ้ารักตัวเอง ต้องไม่สนใจคนอื่น ถ้ารักคนอื่นก็ไม่ต้องสนใจตัวเอง
การรักตัวเองไม่ได้หมายความว่าเห็นแก่ตัวนะ คนที่เห็นแก่ตัวไม่ได้เรียกว่ารักตัวเอง
การรักคนอื่นอย่างเดียว โดยไม่สนใจตัวเองเลย ก็ไม่ได้เรียกว่ารักตนเองอีก
ความเข้าใจเรื่องการแก้กรรม
กรรม คือการกระทำ เมื่อกระทำแล้วก็มีวิบาก คือมีเหตุแล้วก็มีผล
เรารู้สึกอย่างไรก็แปลว่าเคยทำให้ผู้อื่นรู้สึกเช่นนั้นมา “กรรมส่งผลที่ความรู้สึก” เรา
นอกจากนี้ยังมีกรรมส่งผลที่กายก็ได้ เช่น ฆ่าสัตว์มามากก็ทำให้เป็นคนร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย
ถ้าคนหรือสัตว์ที่เราทำไว้ แค้นเรา เค้าเรียกว่าเป็นการผูกเวร แต่เจ้ากรรมนายเวรไม่จำเป็นต้องเป็นคน หรือสัตว์ที่เราไปทำเขาไว้ เช่น อาจจะเคยพูดไม่ดีไว้กับพ่อแม่ แล้วก็เลยมาเจอแฟนที่พูดแย่ ๆ กับเรา
เราทำอาชีพขายหมู ฆ่าหมู หมูไม่จำเป็นต้องมาฆ่าเรา แต่กรรมจะส่งผลให้เราเจ็บป่วย
พระโพธิสัตว์เรียนรู้โทษของราคะ
ความรักที่บริสุทธิ์ เป็นสุขชนิดที่ไม่เป็นเหตุแห่งทุกข์ ไม่ใช่ความรักด้วยกาม ไม่ใช่ความรักด้วยราคะ
กามและราคะเป็นเหตุให้ยึด ให้หลง ให้หึงหวง เป็นเหตุให้ผิดศีลข้อ 3 เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดในสังสารวัฎ
เราทุกข์เพราะกามมามากแล้ว แต่ก็ไม่เคยยอมวาง เพราะกามเอาสุขแลกทุกข์
รักแท้ ๆ จริงใจ อย่ามองแค่การเสพ
คนรัก ไม่ต่างจากเพื่อน หรือคนในฐานะอื่น ๆ รักกันเพื่อส่งเสริมทางด้านจิตใจ ให้ผ่องใส ไม่มัวหมอง คลายอุปาทานความยึด รักกันเช่นนี้แล้วพ้นทุกข์
นำเรื่องพระชาติครั้งพระพุทธเจ้าเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ที่เรียนรู้เรื่องโทษของกามราคะมาฝากค่ะ :)
_/\_ _/\_ _/\_
ทำไมพระพุทธเจ้าจึงเมตตาพระราหุลและพระเทวทัตเสมอกัน
คนหนึ่งเป็นลูก คนหนึ่งเป็นศัตรูที่ปองร้าย แต่ทำไมท่านจึงเมตตาได้เสมอกัน แล้วเมตตาแบบไหนเช่นไร
ท่านเมตตาได้เสมอกัน เพราะแท้จริงแล้วในสังสารวัฎ มีแต่ดวงจิตที่เดินทางเวียนวนไปในภพภูมิต่าง ๆ
แต่ละคนที่มาพบกัน ที่เราเรียก เป็น คน สัตว์ เรา เขา พ่อ แม่ ชื่อนั้น ชื่อนี้ เป็นการสมมติขึ้นมาในชาติหนึ่ง ๆ
ถ้าแยกเรื่องชั่วคราวออก ทุกคนจะเหลือแต่จิตที่หลงติดกับการเกิด เหมือนกัน
มาเกิดแต่ละชาติ แต่ละช่วงชีวิต ก็สวมบทละครแตกต่างกันไป ตายแล้วก็จบละครเรื่องหนึ่ง แล้วเกิดเพื่อไปเป็นตัวละครตัวใหม่
บทความอื่นๆ...
- ความรัก กรรม รักแท้ และการสิ้นสุดทุกข์
- คุณค่าของความรัก รักโดยไม่ต้องทุกข์มีไหม
- รู้สึกตัวเองไม่มีค่า
- รักคือการให้ ต้องให้อะไร แล้วถ้าอีกฝ่ายไม่อยากได้ ควรทำอย่างไร
- กลัวความไม่แน่นอน
- ถนอมรัก
- สมมติว่าแฟน
- รักหลงทาง
- มีแฟนเพื่ออะไร
- จะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือคนที่ใช่
- นิยามความรัก
- รักแฟนแตกต่างจากรักพ่อแม่ เพื่อน ฯลฯ อย่างไร
- ตัวแทนความรัก
- รักตนเองให้เป็น
- รากฐานของความรัก
Page 2 of 42